Infographic จาก Online PhD Program ว่าด้วยเรื่องรายได้ของ Facebook มาจากตรงไหนบ้าง เนื่องจากครั้งนี้จะเขียนแปลกำกับบางส่วนเอาไว้ด้วย เลยขอหั่นภาพออกเป็นส่วนๆ ถ้าจะดูภาพขนาดเต็มดูได้จากที่มานะคะ 
Facebook เกิดขึ้นโดยนักศึกษาจากฮาร์เวิร์ด “มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก” และรูมเมตในเดือนกุมภาพันธ์ 2004 แต่ไม่ได้รับผลกำไรจนถึงท้ายๆ ปี 2009 (ใครดูหนังเรื่อง The Social Network ก็คงรู้ประวัติคร่าวๆ ส่วนนี้กันแล้ว :P)
แรกเริ่มนั้น “Facebook” ใช้ชื่อว่า “The Facebook” และเปิดให้ใช้ในกลุ่มนักศึกษาฮาร์เวิร์ดเท่านั้น ต่อมาช่วงซัมเมอร์ปี 2004 Facebook ได้รับทุนจาก Peter Theil (ผู้ร่วมก่อตั้ง Paypal) ราวๆ 500,000 เหรียญ และภายในไม่ถึง 1 ปี ได้รับทุนจากแหล่งต่างๆ 12.7 ล้านเหรียญ
ในปี 2006 Microsoft ลงทุนใน Facebook ราว 240 ล้านเหรียญ (จะเห็นว่าในตอนนี้ Microsoft ถือว่าเป็นพันธมิตรกับ Facebook ทั้งเรื่องระบบ Search ที่ใช้ Bing, ระบบ Document ที่ใช้ Docs.com เปิดไฟล์เอกสารออนไลน์ และอื่นๆ อีกมาก)
จำนวนผู้ใช้ Facebook มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนกรกฎาคม 2010 มีผู้ใช้ Facebook มากกว่า 500 ล้านราย โดยในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2010 Facebook เป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา แซง Google
Facebook เริ่มมีรายได้จาก Ads (โฆษณา), Applications และ Facebook Credits (หน่วยเครดิตสำหรับผู้ใช้ Facebook โดยผู้ใช้สามารถนำ Credits นี้ไปชำระเงินค่าสินค้าหรือซื้อไอเทมในเกมที่อนุญาตให้ใช้ Facebook Credits จ่ายได้ โดย Facebook ก็จะหักส่วนแบ่งไป 30%)
ธุรกิจที่สำคัญอีกอย่างของ Facebook คือ Facebook Games เป็นธุรกิจใหญ่มหาศาล (ถึงแม้ว่า Facebook เองจะไม่ได้ทำเกมก็ตาม แต่ทำตัวเป็นเหมือนพ่อค้าคนกลางเปิด Platform ให้บริษัทเกมนำเกมมาลง) โดยมี Zynga เป็นอันดับหนึ่งของผู้ผลิตเกมดังๆ อย่าง Farmville และ Mafia wars (มีผู้เล่นราวๆ 83 ล้าน และ 25 ล้าน) มีบริษัทญี่ปุ่นเข้าร่วมลงทุนในวงเงิน 150 ล้านเหรียญ
(ข้อมูลยังไม่รวม CityVille เกมใหม่จาก Zynga ซึ่งมีผู้เล่นเยอะพอๆ กับ Farmville และได้รับความนิยมมากในตอนนี้นะเนี่ย)
มูลค่าของ Facebook อยู่ที่ 600-700 ล้านเหรียญในปี 2009 โดยได้จาก brand advertising 225 ล้าน, Microsoft 50 ล้าน, Facebook Credits 10 ล้าน และ performance advertising 350 ล้าน
โดย performance advertising จะเป็นโฆษณาที่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ผ่านคีย์เวิร์ด, อายุ, location, เพจที่เพื่อนกด Liked (ยกตัวอย่างเช่นเจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานอาจจะได้เห็นโฆษณาเชิญชวนให้ลดน้ำหนัก เข้าคอร์ส แต่ผู้หญิงที่ตั้งค่าใน profile ว่าแต่งงานแล้ว ก็อาจจะเห็นโฆษณาบำรุงครรภ์ไรงี้ ^^)
ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา Facebook ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ แบบก้าวกระโดด และมีผลประกอบการที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดมูลค่าของ Facebook อยู่ที่ 20,000 ล้านเหรียญ ใช้เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 60,000 เครื่อง (ข้อมูลอัปเดตปี 2009) เทียบกับ Google 450,000 เครื่อง, ebay 50,000 เครื่อง
ส่วนในปี 2011 Facebook จะเป็นยังไงต่อไป? ก็ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ มีข่าวอัปเดตยังไง Faceblog จะเอามานำเสนอให้อ่านกันนะคะ ^^
