All PostFacebookInfographicSocial Network

ทำความเข้าใจ “ศาสตร์แห่งการทำ Viral content”

Infographic อันนี้มีนานมากๆ แล้ว แต่ก็ยังมีเนื้อหาเป็นปัจจุบันและน่าสนใจดี ก็เลยเอามาให้อ่านกันฮับกับ Infographic ที่ว่ากันเรื่องของ Viral content ล้วนๆ ว่ามันมีลักษณะเป็นยังไง เกิดได้ยังไง อะไรงี้จ้ะ

อันนี้จะมีสรุปเป็นภาษาไทยไว้ตอนท้าย แต่คงไม่ละเอียดเท่า Infographic + สรุปตามที่ตัวเองเข้าใจ ดังนั้นเห็นแย้งยังไง ก็คอมเมนต์กันมาได้จ้ะ

อันว่า Virality อะไรนี่ มีกฎของ Metcalfe อยู่ (เค้าคือใครก็ไม่รู้ เราก็ขี้เกียจหาอะนะ แหะๆ) ว่าด้วยเรื่องของ “การคำนวณมูลค่าของเครือข่าย” ซึ่งเค้าแทนค่า N ด้วยจำนวนของเครือข่ายที่คนๆ นึงจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ (เช่นผ่านการไลค์, ทวีต, วอทสแอป, ไลน์ หรืออื่นๆ) และถ้าเราใช้ต้นทุนไปกับการทำ Viral มูลค่าเท่ากับ N ละก็ มูลค่าของ Viral ที่เราจะได้ (ถ้าแคมเปญหรืออะไรก็ตามที่เราทำ Viral มันเกิดการบอกต่อจริงๆ) มูลค่าของ Viral connection ที่เราจะได้ จะมีค่าเท่ากับ N2 ทันที

ส่วนประกอบของ Viral content

Viral content แบ่งออกเป็น 2 ส่วน

  1. content เจ๋งพอที่คนจะแชร์
  2. ซึ่งถ้ามีคนแชร์ปุ๊บ มันจะมีการบอกต่อผ่านการ like, tweet และยอด views ของ content ก็จะสูงชะลูดปรู้ดปร้าดทันที

ประเภทของ Viral content

  1. บทความ หรือบล็อก
  2. Interactive content หรือคอนเทนต์ที่โต้ตอบกับคนเล่นได้ เช่น เกม, ควิซ หรือ widgets ต่างๆ
  3. คลิป, เสียง
  4. Infographics

เหตุผลที่คนจะแชร์

  1. ตลก
  2. เหลือเชื่อ
  3. ฟีลกู๊ด
  4. เห็นด้วย เลยแชร์เพื่อแสดงจุดยืน
  5. ทำให้เราหยุดและคิดใคร่ครวญกับคอนเทนต์นั้นๆ ได้
  6. ไม่โหล เช่น เที่ยงคืนมีคนแชร์รูป Doodle กันเป็นสิบๆ เพจแล้ว ถ้าบ่ายสามยังมีคนแชร์รูป Doodle อีก คนก็ไม่บอกต่อแล้วล่ะ
  7. อ่านแล้วทำให้ใครบางคนยิ้มได้
  8. ดราม่า
  9. มันช่างน่าอับอายอะไรเยี่ยงนี้ (เช่นรูปข่าวสามมิติที่ถ่ายรูปการตัดไม้ทำลายธรรมชาติ หรือข่าวพระมี in relationship ใน Facebook ไรงี้)
  10. 18+ (แต่ก็ไม่ถึงกะเป็นรูปโป๊ในงี้นะ เปิดในที่ทำงานอายเขาแย่
  11. ขอแชร์หน่อยนะคะ น้ำตาจะไหล :h_cry:
  12. (อันนี้เค้าไม่มีหรอก เติมเอง แฮ่)

วิธีปั้นให้ Viral content เกิด

เชื่อไหมว่าหลายๆ อย่างที่เค้าบอกว่าเป็น Viral นักหนาเนี่ย บางอย่างก็เกิดไวรัลได้ด้วย “ความจงใจ” ด้วยการปั้นกระแสหลายๆ ทาง เพราะ content บางอย่างสามารถเป็น Viral ได้ก็จริง แต่หลายๆ แบรนด์ก็อยากจะให้มัน “เป็นกระแส” ให้เร็วที่สุด เพื่อตอบโจทย์อะไรบางอย่างของแบรนด์ เช่น แบรนด์จะมีอีเวนต์เปิดตัวอีกสัปดาห์นึง ต้องทำไงก็ได้ให้คนพูดถึงให้มากที่สุด ก่อนการจัดงานอีเวนต์ อะไรงี้ เพราะงั้นถ้ารอให้มันไวรัลจริงๆ มันอาจจะต้องใช้เวลา (ประดุจถ้าอยากเร่งให้มะม่วงสุกเหลืองไวๆ ก็บ่มแก๊สซะสิ ถึงมันจะไม่อร่อยลิ้นเท่ารอเวลาก็เถอะ) ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้เค้าเรียกว่า “Seed Campaigns” ฮับ :h_kungfu:

อันว่าการ seeding ให้เกิดไวรัล ก็ทำได้หลายทาง เช่น

  1. จ้างให้เซเล็บในทวิตเตอร์ช่วยโปรโมตผ่านทวีต
  2. จ้างบล็อกเกอร์ให้เขียนบล็อกโปรโมตให้
  3. จ้างให้โปรโมตผ่าน Facebook Pages ที่มีแฟนเยอะๆ

อะไรงี้เป็นต้น

ทั้งนี้อีกอย่างที่ทำแล้วเกิดกระแสแน่ๆ (แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคนที่เข้าใจธรรมชาติของ Social Networl และเข้าใจการทำ viral นะ) ก็คือ “การทำแคมเปญเพื่อสังคม” เช่น ถ้ามี Like ถึงยอด จะไปสร้างบ้านให้น้องขนมต้มบนยอดดอยผักกูด อะไรงี้จ้ะ

ส่วนเรื่องการดีไซน์ Viral content ยังไง ให้คนแชร์ ดูจากแผนภาพใน Infographic โลด เค้าเขียนมาเข้าใจง่ายแล้วฮับ

มีอะไรสงสัยหรืออยากรู้เพิ่มเติม ก็คอมเมนต์ถามได้เด้อ ตอบได้จะตอบให้จ้ะ :h_sexy:

ที่มา – problogger
SHARE :
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Bluemoon
the authorBluemoon
I come from B612 star, nerd, greedy, moody, lazy, Facebook Development, social Networking. almost Blog in Thai but English OK. ^^