บทสัมภาษณ์นี้มีต้นตอมาจากในงาน Disrupt TechCrunch ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งผู้ก่อตั้ง Instagram (Kevin Systrom) ก็มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
สำหรับความสำเร็จของ Instagram ในประเทศจีนนั้น มีตัวเลขดาวน์โหลดแอปมากกว่า 100,000 ครั้งต่อสัปดาห์ และจากนี้จะเป็นบทสัมภาษณ์ (ที่ถอดคร่าวๆ ตามที่ตัวเองเข้าใจ) ถึงเรื่องของแนวคิด วิสัยทัศน์ และแพลนในอนาคตของ Instagram น่าสนใจทีเดียวเชียวแหละ
เริ่มแรก นักข่าวจาก TechCrunch ถาม Kevin ว่ารู้สึกยังไงที่ Instagram กลายเป็นแอปยอดฮิตติดตลาดในโซนทวีปเอเชีย มีผู้ใช้จำนวนมากอยู่ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงมีแอปตกแต่งภาพและทำตัวเป็น Social Network เหมือนๆ กับ Instagram ออกมาเยอะแยะมากมาย ซึ่ง Kevin ตอบว่า
“ที่นี่อาจจะมีแอปที่เหมือนๆ กับ Instagram ซัก 10 แอป แต่ในอเมริกานั้นมีจำนวนแอปที่เหมือนกับ Instagram มากกว่าในเอเชียซะอีก เค้าไม่รู้สึกว่าการโดนก๊อปไอเดียจะเป็นเรื่องผิดอะไร กลับกัน การที่ Instagram โดนลอกเลียนแนวคิด กลับเป็นการบ่งบอกว่าแนวคิดของ Instagram นั้นประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ซึ่งเค้ามั่นใจในสังคม Community ของ Instagram มาก และจุดนี้เป็นสิ่งที่แอปไหนๆ ก็ยังทำเทียบเท่า Instagram ไม่ได้”
กับประเด็นเรื่องอุปสรรคในการตีตลาดเมืองจีน (ประเทศจีนนี่ Social Network อินเตอร์เข้าถึงยากมาก เพราะว่าจีนจะทำการสร้างเว็บ Social Network ที่มีฟีเจอร์เหมือนๆ กันขึ้นมาให้คนจีนใช้ทันที เช่น สร้าง Weibo ที่เหมือนกับ Twitter และ Renren ที่เหมือน Facebook เด๊ะๆ) ในจุดนี้ Kevin ตอบว่า “เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการจัดการทรัพยากรและเวลา ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับทีม Instagram โดยในอีกเร็วๆ นี้ Instagram มีแผนที่จะสนับสนุน Social Network ของจีน, ญี่ปุ่น เกาหลี” (เดาว่าคง support การแชร์รูปผ่าน Renren, Weibo, Mixi อะไรงี้ เพิ่มจากการแชร์ขึ้น Facebook, Twitter, Tumblr ไรงี้ มั้งนะ)
การระดมพัฒนา Instagram ให้ครอบคลุมทั่วโลกนี่ ทำไปเพราะตั้งใจจะเพิ่มแหล่งเงินทุนให้กับ Instagram หรือเปล่า? Kevin ตอบว่า “ทุกวันนี้ก็มีเงินทุนเพียงพอแล้วสำหรับบริษัท Instagram ที่มีพนักงานอยู่ 6 คน เพราะงั้นการระดมขอเงินทุนก็ยังไม่จำเป็นในเวลานี้ ยกเว้นว่าจะขยับขยายขนาดองค์กร เพิ่มจำนวนพนักงาน บลาๆ ก็ว่าไปอย่าง ตอนนั้นก็ค่อยมาว่ากันอีกที”
สุดท้าย Kevin ได้ทิ้งท้ายถึงไอเดียของ Instagram Video ไว้ว่า “เป็นไอเดียที่น่าสนใจ เราอยากจะก้าวไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำแอปแต่งรูป (filtered photos) งานและเป้าหมายของเราคืออยากให้ผู้ใช้ได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต และวิดีโอก็เป็นเครื่องมือที่ดีในการบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราตั้งใจจะทำให้ Instagram ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ส่วนจะมี filter แต่งวิดีโอด้วยไหมนั้น ทางทีมกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะมีหรือไม่มีดี”
โอวววว งานนี้ถ้า Instagram เอาจริง ก็ถือว่ากระโดดเข้ามาชนกับ YouTube, Facebook อะไรพวกนี้จังๆ เลยแฮะ แต่จะออกมาหมู่หรือจ่าก็ต้องดูกันในอนาคตกันนั่นแหละเนอะ