ยุคสมัยที่โลก Social Network เริ่มมีการแข่งขันกันมากขึ้น การมี Feature แปลกๆ ใหม่ๆ ก็เริ่มโผล่เข้ามาในหลายๆ เจ้า แต่คุณสมบัติที่แทบจะมีเกือบๆ ทุก Social Network นั่นก็คือ Hashtag เรียกสั้นๆ ว่า Tag (แท็ก) หรือเจ้าเครื่อง # (อ่านว่า เครื่องหมายชาร์ป ที่เรียกกันโดยทั่วไป) บทความนี้เลยอยากมาแนะนำให้รู้จักกับเจ้า Hashtag กันให้มากขึ้นกว่าเดิมครับ
จุดเริ่มต้นของ Hashtag
จุดเริ่มต้นของมันจริงๆ ก็น่าจะมีความยาวนานมาพอสมควร แต่ถ้าเจาะกันให้ลึก มันเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปี 2000 ครับ ช่วงที่โปรแกรมแชทอย่าง IRC กำลังรุ่งเรือง (เด็กๆ สมัยนี้อาจจะไม่รู้จักกันแน่นอน) ตอนนั้น # ไปปรากฏใน IRC เพื่อใช้เป็น label หรือป้ายบอกชื่อกลุ่มและหัวข้อต่างๆ ต่อมาวันที่ 23 สิงหาคม 2007 คุณ Chris Messina ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีของสังคมออนไลน์ตอนนั้น ก็ได้เป็นคนทวิตด้วยการติด Hashtag ลงใน Twitter เป็นคนแรก ด้วยทวิตที่ว่า…
how do you feel about using # (pound) for groups. As in #barcamp [msg]?
— Chris Messina™ (@chrismessina) August 23, 2007
คือคุณ Chris เค้ากำลังจะบอกว่า มาลองใช้ # เพื่อจัดกลุ่มข้อความกันมั้ย เช่น #barcamp แล้วตามด้วยข้อความ (คือตอนนั้นเค้าอยู่ในงาน Barcamp อยู่แล้วก็ทวิตขึ้นมา) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Twitter ก็เลยจับเจ้า Hashtag เป็นคุณสมบัติอย่างเป็นทางการ เพื่อทำการจัดกลุ่มทวิตที่มีความเหมือนกันหรือคล้ายๆ กัน มาอยู่ด้วยกันนั่นเอง
ฉะนั้น ถ้าสรุปง่ายๆ Twitter คือ Social Network ตัวแรกที่ใช้ Hashtag นะจ๊ะ
เครดิตภาพ : The History of the #Hashtag (State of Search)
รูปแบบการใช้งาน
ส่วนใหญ่เราจะใช้ Hashtag ตรงไหนก็ได้ครับ ไว้หน้าข้อความ กลางข้อความ หรือท้ายข้อความก็ได้ ไม่มีผิดถูกแต่อย่างใด
แล้วมันมีหน้าที่ไว้ทำอะไร?
อันนี้ก็ตามแต่ละเว็บเค้าจะกำหนดขึ้นมาครับ บางเว็บมีหน้าที่ในการเป็นป้ายกำกับของโพสนั้นๆ หรือบางเว็บก็มีหน้าที่เป็นตัวช่วยในการกรองข้อมูลเป็นกลุ่มๆ บางเว็บก็ใช้ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลจากแท็ก แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้ก็จะใช้เพื่อเป็นการแสดงอารมณ์หรือเป็นตัวช่วยเน้นย้ำข้อความให้มันดูเด่นเป็นสง่าในข้อความนั้นๆ
แล้ว Social Network ตัวไหนบ้างละใช้ Hashtag ได้บ้าง?
ถ้าเป็น Social Network ที่รู้จักกันดีก็จะมี Facebook, Google+, Instagram, Orkut, Pinterest, Sina Weibo, Tumblr, Twitter (เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2009), YouTube (2009–2011), Linkedin, Vine เป็นต้น
แล้วเราจะเอา Hashtag มาใช้อะไรได้บ้าง?
ประโยชน์ของมันมีมากมายเลยละครับ เช่น
- เอาไว้ทำ Meme การทำ Meme ถ้าพูดง่ายๆ เหมือนเป็นการสร้างกระแส (Trends) ในระยะสั้นๆ อย่างที่ใน twitter เล่นกันหลายๆ tag เช่น #ครั้นสมัยฉันเล่นmsn หรือ #พอใจไม่ใส่เครดิต ส่วนใหญ่แท็กเหล่านี้จะเกิดจากกระแสต่างๆ รายวันแล้วก็จะมีคนเริ่มคิดดัดแปลงให้มันเกิดความสนุกขึ้นมา (เชิงว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนั้นๆ อยู่อ้อมๆ) ซึ่งมันอยู่ไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวก็ค่อยๆ หายไปจนกว่าจะมีใครขุดมาเล่นใหม่
- ทำการตลาด บางแบรนด์ที่หันมาเล่น Social Network ในการทำการตลาด ก็จะใช้ Hashtag นี่แหละ ในการช่วยกระจายชื่อเสียงออกไป ถ้าให้เห็นง่ายๆ หรืออย่างบางเจ้าก็ใช้ในการช่วยในการจับฉลากหาผู้โชคดีโดยจับจากคนที่ติดแท็กนั่นเอง
- ปั่นกระแสในช่วงออกอากาศ โทรทัศน์เอย วิทยุเอย หรือสื่อการกระจายภาพและเสียงต่างๆ (คำพูดนี่ทางการเกิ๊น ) จะใช้ Hashtag ในการช่วยดูความเป็นไประหว่างที่ออกอากาศ เค้าก็สามารถใช้มันเป็นตัวชี้วัดได้อีกด้วย เช่น #HormonesTheSeries ที่สามารถวัดยอดการชมได้แบบ realtime กันเลยทีเดียว (Hormones วัยว้าวุ่น The Series นี้ ทำไมถึงดัง? #hormonestheseries)
- ช่วยสร้างกระแสให้ตื่นตัวในสังคม หลายๆ tag ใน Twitter หรือ Google+ นั้น ช่วยในการเปลี่ยนแปลงสังคมหรือระบบบางอย่างได้ ฟังดูอาจจะเหลือเชื่อ แต่ถ้าคุณยังจำเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อหลายๆ ปีก่อนได้้ แท็กที่ชื่อว่า #thaiflood คือแท็กที่ช่วยให้เกิดการตื่นตัวในสังคมกันมากขึ้น เราสามารถรู้จุดเกิดเหตุน้ำท่วมได้รวดเร็วจากคนในพื้นที่ที่เล่น Twitter แล้วทำการ Tag มา ทำให้เว็บ thaiflood.com สามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่าง realtime และให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
ปัจจุบัน เราอาจจะมองว่า Hashtag เป็นเพียงแค่ตัวเลือกนึงในการที่เราอยากแชร์โน่นนี่นั่นให้ดูมีสีสัน แต่ลึกๆ แล้ว ประโยชน์ของมันเยอะมากนะครับ ไม่ว่าจะ Social Network ตัวไหนที่มีก็ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ อ้อ! ข้อควรระวังในการใช้ Tag ที่สำคัญคือ อย่าปั่น Tag มากนะครับ เพราะกฎของ Social Network หลายๆ ตัวจะบอกว่า ถ้าหากมีการปั่นแท็กจนผิดสังเกตุก็จะเข้าข่ายสแปมทันที ใครอยากเทรนด์ให้ติดระดับโลกบ่อยๆ ก็ระวังนิดนึงนะครับ