มีงานวิจัยว่าด้วยสถิติต่างๆ ในการทำการตลาดบน Facebook ซึ่งนำมาสู่ข้อสรุปและตัวเลขหลายๆ อย่างที่น่าสนใจ มีอะไรบ้างมาลองดูฮับ

1. ผู้ใช้ Facebook ในอเมริกากว่า 78% อยู่บน Mobile
กราฟผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่าน mobile ยังสูงขึ้นเรื่อยๆ และผู้ใช้ Facebook ผ่าน mobile ก็มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ถึงสถิตินี้จะเป็นของสหรัฐ แต่ก็พบว่าในไทยก็มีการเติบโตของผู้ใช้ผ่าน mobile สูงขึ้นทุกปี

ดังนั้นสิ่งที่นักการตลาด (นักการตลาดนี่ไม่จำเป็นต้องจบมาร์เก็ตติ้งสวยหรู แต่เป็นแม่ค้าขายของผ่าน Facebook ก็ยังได้) ควรจะทำก็คือ
- การลองดูว่าหน้าเพจของเราเมื่อแสดงใน mobile นั้นเป็นอย่างไร มีข้อมูลครบถ้วนไหม
- ข้อมูลอะไรที่สำคัญๆ ลองใช้ฟีเจอร์ pinned post ดู
- การโพสต์รูปยังเป็นชนิดของโพสต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ ดังนั้นจงเลือกใช้รูปที่มีสีสัน น่าสนใจและดึงดูดสายตาผู้ใช้
- ถ้าเป็นเพจร้านค้าบลาๆๆ ลองเช็กข้อมูลเรื่อง Location ดู ว่ามีการสร้างสถานที่เหล่านี้ใน Facebook ให้สะดวกแก่การเช็กอินและบอกต่อแล้วหรือยัง
- ถ้าคุณมีแคมเปญให้คนเล่น การสร้าง Facebook App ที่เล่นผ่าน mobile ได้ ก็เป็นเรื่องสำคัญ
2. การซื้อโฆษณาช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าถึงได้มากขึ้น
ช่างน่าเศร้าที่ถึงแม้ Facebook จะทำมาให้เราใช้ฟรี แต่ Facebook ก็พยายามหาเงินจากเราด้วยเช่นเดียวกัน เราสามารถสร้างเพจเพื่อทำมาค้าขายหรือโปรโมตตัวเองบน Facebook ได้ แต่ถ้าเราอยากให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงเพจเราหรือข้อมูลของเราเยอะๆ เราจำเป็นจะต้องใช้เงินซื้อโฆษณามาช่วย และนี่คือภาพแสดงให้เห็นว่า จ่ายตังค์แล้วดีกว่าจริงๆ นะจ๊ะ

3. Negative Feedback นั้นสำคัญ
ถึง Facebook จะไม่มีปุ่ม dislike แต่ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลว่าฉันไม่ชอบโพสต์นั้นนี้นู้นได้ด้วยกว่า Hide post หรือ Report Spam โดยในภาพแสดงข้อมูลว่าอัตรา Negative Feedback ต่อโพสต์แต่ละประเภทนั้นเป็นอย่างไรบ้าง (ShopIgniter)

สิ่งที่ควรรู้
- โพสต์แทบทุกประเภทยกเว้นลิงก์ จะมี Negative Feedback Rate เพิ่ม เมื่อมีการจ่ายตังค์ให้โพสต์ประเภทนั้น
- โพสต์ประเภท Question หรือแบบสอบถาม จะไม่ค่อยเจอ Negative Feedback เท่าโพสต์ประเภทอื่นๆ อาจเป็นเพราะว่าคำถามมันไม่ได้ทำให้คนรู้สึกติดลบจนอยากซ่อนเท่าโพสต์ขายของอะไรงี้
- น่าแปลกที่ Facebook Offers มี Negative Feedback น้อยกว่าลิงก์ อาจเป็นเพราะมนุษย์ชอบของฟรีหรือส่วนลดฟรี
4. Facebook Hashtag ไม่ช่วยอะไร
ลองดูจากภาพดู จะเห็นว่าโพสต์ที่ไม่มี hashtag กลับเข้าถึงคนได้มากกว่าแบบมีแท็กซะงั้น อาจเป็นเพราะระบบ hashtag ของ Facebook อาจจะยังไม่สมบูรณ์ เช่น ค้นหาโพสต์ได้ไม่มาก อะไรงี้ก็เป็นได้

5. โพสต์ที่มี CTR สูงสุด กลับเป็นโพสต์ประเภท Sponsored Check-in Stories (ซะงั้น)
ดูด้วยภาพเลยละกันฮะ (ที่มา: The Facebook Ads Benchmark Report)

อย่างไรก็ดี งานศึกษานี้ยังเป็นกรณีศึกษาในเมืองนอกและกลุ่มตัวอย่างอาจจะไม่ตรงกะไทยซักเท่าไหร่ แต่บางข้อมูลก็ตรงกันและน่าสนใจ ก็ลองเอาไปวิเคราะห์และปรับให้เข้ากะแนวทางของแบรนด์ตัวเองเอาเองละกันฮับ
ที่มา – Social Media Examiner