สำหรับใครที่ชอบเล่นแท็ก หรือติดตามแท็ก ก็มักอดไม่ได้ที่จะคลิกเข้าไปดูว่ามีสเตตัสอื่นๆ อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้
(สงสัยติดมาจากทวิตเตอร์)
วันนี้ผมก็ลองคลิกเช่นเคยครับ (หลังจากอ่านข่าวนี้) แต่ก็พบว่า มีความแตกต่างจากเมื่อก่อนไปเยอะเลย ดูหะหรูหะหราป็นยิ่งนัก (ปรกติผมเข้าหน้าพวกนี้บ่อยครับ เพื่อตามแท็กที่เปิดไว้ให้แฟนเพจเล่น)
และผมก็ต้องตกใจ เพราะนอกจากจะมีรูปแบบเป็น cards ที่หลายคนก็คงคุ้นชินกันแล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการแสดงผลนิดหน่อยด้วย (ตามภาพ)
นั่นคือแทนที่จะเอาสเตตัส (ทั้งโพสรูป โพสลิงก์ แชร์ ฯลฯ) มาเรียงๆ กัน ตามความสัมพันธ์และวันที่แบบแต่ก่อน (ใหม่อยู่บน เก่าอยู่ล่าง เป็นเพื่อนอยู่บน ไม่รู้จักอยู่ล่าง (ประมาณนั้นมั้ง?)) และหากมีเหตุการณ์ซ้ำๆกัน จะบอกว่ามีใครอีกบ้างที่ทำเหมือนกัน แต่ต้องกด See [n] more posts เอาเอง
(การแสดงแท็กแบบเดิม จะแสดงแค่อันเดียว ที่เหลือต้องกดดูเอง หน้าตาเหมือนหน้าแสดงฟีดจากลิสท์)
แต่แบบใหม่ กลับเอาเหตุการณ์ที่เกี่ยวพันกันนั้น มาทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนกันซะเลย แล้วก็เอารูปโปรไฟล์มาเรียงด้านข้าง แบบนี้
(สเตตัสที่ถูกดึงมาแสดงจากแท็ก #ไทยตัวร้ายกับนายเขมร)
ซึ่งลดการแสดงผลซ้ำๆ กันออกไปได้เยอะโขเลย และเมื่อต้องการสเตตัสนั้นๆ ก็เพียงเอาเมาส์ไปวางๆ ไว้เป็นพิธี มันก็จะโผล่ขึ้นมาแสดงให้เห็น ว่าคนๆ นั้น โพสว่าอะไร มีกี่คอมเมนท์ กี่ไลค์ อะไรก็ว่าไป
ซึ่งจากการลองสังเกต จะพบว่าการซ้อนทับนี้ จะเกิดเมื่อ
- มีการแชร์ url เดียวกัน ไม่ว่าจะแปะลิ้งค์ไว้ในวอลตัวเองง วอลเพื่อน หรือวอลเพจใดๆ หากเป็น url เดียวกัน มันก็จะแสดงผลแบบนี้
- มีการโพสรูป หรือ สเตตัส แล้วมีคนเอาไปแชร์ต่อ มันจะเอาคนแรกที่เป็นคนโพสไว้บนสุด แล้วก็เรียงๆ ตามระบบ (ซึ่งยังงงๆว่า มันใช้วิธีคิดแบบไหน บางอันก็เอาคนแชรืทีหลงขึ้นบนทั้งๆที่ เรากับเขาก็ไม่ได้รู้จักกันพิเศษอะไร)
อันนี้คือมีคนโพสต์รูป แล้วคนอื่นๆ เอาไปแชร์
(ตัวอย่างจากแท็ก #ไทยตัวร้ายกับนายเขมร)
อันนี้คือมีคนโพสต์ลิงก์
(ตัวอย่างจากแท็ก #ไทยตัวร้ายกับนายเขมร)
ส่วนอันนี้คือมีเพจโพสต์ลิงก์ไว้ แล้วสองคนนี้แชร์มาอีกที
(ตัวอย่างจากแท็ก #ไทยตัวร้ายกับนายเขมร)
ซึ่งทุกวันนี้ก็สับสนกับการค้นหาของ Facebook มาก ว่าตกลงจะเจอหรือไม่เจอ มีบางอันที่มีคนแชร์ลิงก์จากหน้าเพจ (มีขึ้น via นะ) แต่กลับไม่เอาสเตตัสที่ทางเพจได้แชร์ไว้มาแสดงด้วยซะงั้น ทั้งๆ ที่เพจนั้นถือเป็นเจ้าของเหตุการณ์นั้นๆ เลยก็ว่าได้ ปวดหัวกับมันจัง
นอกนั้นก็เป็นการคำนวณ เช่นอันไหนที่เป็นสเตตัสที่เป็นเพื่อนกับเรา มีเพื่อนเราไปเมนท์เยอะ มีคนกดไลค์เยอะ ก็จะนำมาเรียงไว้บนสุดเป็น Top Story อีกด้วย เน้นสีสวยๆ โตๆ ไปเลย (รู้สึกแต่ก่อนก็มีนะ แต่ไม่เด่นเท่านี้) แบบนี้
(การโชว์ Top Story ให้น่าสนใจ)
ซึ่งการดีไซน์แบบนี้ ทำให้เห็น Related ชัดเจนขึ้นด้วย เพราะด้วยตำแหน่ง ความโล่ง และสีพื้นหลัง (ความเห็นส่วนตัว) เช่น .. เอ่อะ เสิร์ช #เขิน มีแนะนำ #ฟิน ให้แบบด้านล่าง
(การหาแท็กที่ใกล้เคียงให้ด้วย ซึ่งมีตั้งแต่รูปแบบเดิมแต่ปรับให้ชัดขึ้น)
แต่!! สิ่งที่หายไปคือช่องโพส ที่ปรกติมันจะบอกว่า สู้เจ้าแพล่มอะไรในเรื่องนี้หน่อยสิ
(Say something about #hashtag… ) แบบเน้..
(แบบเก่าจะมีช่องให้อัพเสตตัสได้เลยในหน้าแสดง)
มันก็เอาออกไป ซึ่งจะว่าไปก็ถือว่าน่าเสียดายนะ ความเห็นส่วนตัวผมคือ ถึงคนเราจะอัพสเตตัสไม่บ่อยเท่าทวีต แต่หากเกิดเป็นงานๆหนึ่ง เช่น งานหนังสือ เวลามีคนกดดูสถานการณ์ความเป็นไปจากแฮชแท็กนี้ แล้วอยากโพสอะไร จะได้โพสได้เลย (มันแท็กให้อัตโนมัติ) แล้วยิ่งเร้าอารมณ์ให้คนอัพสเตตัสอีกต่างหาก พอเอาออกไป เหมือนอยากให้เราเป็นแค่ผู้ดูเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลง นำมันกลับมารึเปล่า
นอกนั้นก็เป็นฟังก์ชั่นที่หลายคนก็คงเคยรู้แล้ว (แต่แทบไม่เคยใช้) คือค้นหาได้อย่าง Advance มากขึ้น ว่าจะให้เป็นโพสต์แบบไหน ใครโพสต์ แท็กเรามั้ย บลาๆๆ ซึ่งตรงนี้แหละที่จะทำให้มันเหนือกว่าระบบของทวิตเตอร์ เพราะทวิตเตอร์จะดึงมาหมดเลย
(การลองเล่นกับเมนูด้านขวาเพื่อการค้นหาแบบขั้นสูง โดยลองเลือกว่าให้เป็นเพื่อน ในกรุงเทพ โพสต์แบบแชร์ ก็จะได้แบบนี้ครับ สังเกตว่าใครออนไลน์มันจะมีอีจุดเขียวๆ บอกด้วย หูววว)
กระนั้นก็ตาม จากที่ทดสอบดู (เน้นค้นแท็กภาษาไทย) ถือว่ายังเอ๋อๆ ค้นไม่ค่อยเจอ แบบใหม่มันเหมือนมาไม่หมด กั๊กๆ และจากการทดสอบแท็กเดียวกันนี่แหละ (คนละแอคเคาท์) ปรากฏว่า แบบเก่า เสิร์ชดีกว่าเดิมเยอะเลย การค้นหาและแสดงผลแบบเก่าดึงมาได้ดีกว่าเยอะเลย แบบใหม่มีดีตรงที่หน้าตามากกว่าครับ (Minimal จริงๆ ล่อซะข้อมูลหายไปเกินครึ่ง)
อีกเรื่องก็คือการทำไฮไลท์เน้นคำที่แท็กเจอ ก็ยังเอ๋อๆอยู่ ก็ต้องดูๆกันต่อไปครับ
(ไฮไลท์เอ๋อๆ ไม่เต็มประโยค เว้นวรรคให้เอง)
เราได้อะไรจากข่าวนี้?
Facebook ก็เริ่มจะจริงจังกับระบบ tag มากขึ้นเรื่อยๆ ที่ส่งผลอย่างดีกับ Twitter และ Instagram มาแล้ว และจากแท็กที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่างด้านบนๆ นั้น (#ไทยตัวร้ายกับนายเขมร) ระบบได้ดึงสเตตัสบางสเตตัสมาแสดงทั้งที่ยูสเซอร์ไม่ได้แท็กไว้เลย แต่ระบบเจอแท็กจาก Title เลยนำมาแสดงซะงั้น
ดังนั้นหากผมเป็นเจ้าของเว็บไซต์ ผมจะพยายามให้มี #hashtag อยู่บน title ด้วยเลย เพราะทำให้เราได้เห็นว่า ข้อมูลหรือข่าวที่เราลงเว็บนั้น ได้มีคนเอาไปโพสยังไงบ้าง มากกว่าแค่จำนวนแชร์ที่เราดึงมาแสดงบนหน้าเว็บว่าแชร์กันไปกี่คน รวมทั้งเวลาจะอัพอะไรบน Youtube ก็ใส่แท็กเข้าไปด้วยที่ชื่อ เรียกว่าเป็นการเนียนฝังแท็กไปบนโพสของยูสเซอร์โดยยูสเซอร์ไม่รู้ตัวนั่นเอง อุว้ะฮะฮะ (ปรกติก็ทำอย่างนี้อยู่แล้ว) เช่นรูปด้านล่าง
(การแสดงผลจากแท็กที่ดึงมาจาก Title ไม่ได้มาจากยูสเซอร์แท็กเอง)
ตอนนี้ใครใช้ได้แล้วบ้างครับ? ใครยังไม่ได้ก็ใจเย็นๆ นะครับ เฟซบุ๊กคงกำลังทยอยๆ อัพให้อยู่