สองสามวันมานี้หลายๆ ท่านอาจจะได้รับทราบเรื่องของวงโยฯ ของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ขอยืมเงินคุณตัน อิชิตันไปแข่งงาน WGI 2014 โดยไปทำการกดดันคุณตันที่หน้าบ้านมากันบ้างพอสมควร เพราะมันดราม่าชนิดที่ว่ารวมไทยเป็นหนึ่งเดียวก็ว่าได้ (ใครสนใจเรื่องนี้แบบดราม่าตามสไตล์จ่าพิชิตอ่านได้ที่นี่ หรือ ลำดับเหตุการณ์ได้เลยฮับ)
โดยต้นเรื่องมันเริ่มมากจากกระจายข้อมูลผ่าน Social Network (จากที่ผมดูเหมือนจะมีสองที่จุดคือ Twitter ของ @NoteBUJR และ Youtube ที่ Kampanad laong) พอเรื่องนี้มันถูกพูดถึง มันก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย โดยพูดในแง่ลบซะมากกว่า (ตั้งแต่ติดตามมายังไม่เห็นมีใครชื่นชนในการกระทำของเด็กๆ เลย) โดยบทความนี้จะพูดถึงผู้ใช้ Social Network ที่ตอบสนองกับเหตุการณ์นี้อย่างไรบ้าง รวมถึงอะไรเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดที่น้องๆ โรงเรียนนั้นได้พบเจอบน Social Network จะได้เป็นกรณีศึกษากันต่อไป โดยไม่ขอพูดถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะฮับ
http://youtu.be/X1HyDrT11_4
มาที่เรื่องของผู้ใช้ Social Network กันก่อน ถ้ามีความน่าสนใจสุดในตอนนี้ คงจะมอบให้ Pantip ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใครๆ ก็รู้ว่าหาก “นักสืบพันทิป” เริ่มทำงานเมื่อไหร่ เรื่องไม่จบแน่นอน ตอนนี้ก็มีการตั้งกระทู้เรื่องของวงโยฯ เยอะมากๆ ผ่านแท็ก วงดนตรี, โรงเรียน, โรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์ฯ, ตัน ภาสกรนที, ประกวดดนตรี รวมไปถึงที่ห้องเฉลิมกรุงก็มีกระทู้แนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นไปอยู่ถึง 4 กระทู้ด้วยกัน งานนี้เรียกได้ว่าหาทางลงกันยากเลยทีเดียว เพราะอย่างกระทู้ สงสัยบ้าง ? ตกลงวงโย สตรีวิทยา 2 นี่เค้าไปแข่งกับใคร ? ทำไมในเว็บมีทีมเดียว ? ก็มีการแสดงความเห็นมากถึง 1100 ความเห็น แต่ละความเห็นก็จะแสดงความเห็นไปในทางเดียวกัน พร้อมทั้งช่วยกันหาข้อมูลมาตีแผ่และหาความจริง รวมถึงมีให้ความเห็นเพื่อกลับมาอ่านต่อหรือภาษาในพันทิปจะเรียกกันว่า ปูเสื่อรอ นั่นเอง อีกทั้งยังมีพวก เปิดจุดวาร์ป ที่ทำหน้าที่ไปตามหาลิ้งค์ Social Network ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ด้วย
สำหรับฝั่ง Twitter เมื่อวานก็มีการสร้างแท็ก #วงโย ขึ้นมา เพื่อตามติดสถานการณ์ รวมถึงก็มีการแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน อาจจะมีการเล่นมุก #วงโย ตามสไตล์ผู้ใช้ Twitter ขึ้นมาบ้างประปราย
สำหรับ Facebook ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ตามเพจต่างๆ รวมถึงเพจการเมืองบางเพจก็มีการเอามาเอี่ยวด้วยนิดหน่อยพอเป็นพิธี (หาอ่านได้ตามแท็ก #วงโย #คุณตัน) แต่ที่ดูจะเป็นจุดสนใจคือเพจของ MAX Percussion Theatre by Satriwittaya 2 ซึ่งเป็นเพจของวงโยฯ ของโรงเรียนนั้น ตอนนี้กำลังโดนบอมโพสต์จากทุกทาง กันเลยทีเดียว
โดยรวมผู้ใช้ Social Network ในไทยก็จะให้ความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยในลักษณะเดียวกันนั่นเอง ที่สำคัญเหตุการณ์นี้ก็มีการทำการ์ตูนหรือภาพตัดต่อล้อเลียนจากเพจต่างๆ โดยจะนำรูปของคุณตัน อิชิตันมาใช้ในการล้อเลียน
เอาหละ เรามาเริ่มเข้าสู่กรณีศึกษากันดีกว่า เมื่อเราดูผลตอบรับของเหตุการณ์จะเห็นว่าฝั่งวงโยจะโดนโจมตีไปเรียบร้อย ถ้าหากเราไม่มองเรื่องเงินและการแข่งขัน แต่โฟกัสไปที่การใช้ Social Network มันเป็นแบบนี้ครับ
เรื่องของการโพสต์ข้อความในเชิงสาธารณะแล้วเกิดปัญหากันมันมีมาเยอะพอสมควร ใน Faceblog ก็เคยนำเสนอไปเรื่องนึงคือ [กรณีศึกษา] Facebook เป็นพื้นที่ส่วนตัว จริงหรือไม่ ? ซึ่งเราพูดประเด็นของการโพสต์ข้อความใน Social Network แล้วก็มีคนถ่ายภาพหน้าจอมาแชร์อีกที เหตุการณ์เหล่านี้มันก็ยังวนเวียนซ้ำๆ แบบเดิม เพียงแต่คราวนี้ ถ้าเราสังเกตฝั่งของคนไม่เห็นด้วยจะใช้คำพูดในการสื่อสารที่ไม่แสดงอารมณ์เข้าไป ผิดกับอีกฝั่งที่จะมีแต่คำหยาบและด่าทอ เสียดสีอีกฝั่ง มันเลยทำให้เรื่องนี้ไม่จบไม่สิ้นกันเสียที ยิ่งฝั่งวงโยโจมตีด้วยคำพูดเหล่านี้มากขึ้นในพื้นที่ Social Network ที่เป็นสาธารณะมากเท่าไหร่ คนทั่วไปที่พบเห็นก็จะถ่ายภาพหน้าจอแล้วก็เอามาแชร์ซ้ำอีกทีเพื่อนำมาประจาน ถึงแม้เจ้าตัวจะลบโพสต์นั้นไปก็ตาม ถ้ามีการแชร์โพสต์ที่เป็นแบบภาพ มันก็จะเป็นสิ่งติดตัวไปโดยปริยาย เลยทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองออกมาดูไม่ดีนั่นเอง
อีกอย่างหนึ่งถ้าให้มองเรื่องการพิมพ์ข้อความของกลุ่มวงโย จะเห็นว่าใช้คำที่มี Hate Speech และยึดความคิดของตัวเองเป็นหลักพอสมควร ทำให้จุดนี้กลุ่มวงโยพลาดไปเรียบร้อย เพราะแทนที่จะแสดงความเห็นใจจากคนอื่นว่าจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ แต่กลับไปด่าทอคนอื่นโดยไม่ฟังเหตุผลแบบนี้ก็ทำให้มันดราม่าได้วงกว้าง หากวงโยบางส่วนยังดึงดันที่จะทำกิริยาแบบนี้ต่อสังคมก็จะยิ่งโดนนักสืบพันทิปเล่นงานหนักมากขึ้นแน่นอน
ส่วนตัวมองว่าการใช้คำหยาบคายเพื่อพูดคุยให้สนุกสนานหรือเป็นมุกคุยกับเพื่อนคือเรื่องปกติ แต่การพูดคำหยาบหรือกล่าวว่าร้ายกับคนอื่นที่เราไม่รู้จักอันนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในการเล่น Social Network รวมถึงการแสดงพฤติกรรมต่างๆ บน Social Network มันอาจจะส่งผลต่ออนาคตต่อตัวเราได้ เหมือนที่ทำงานหลายๆ ที่ในต่างประเทศรวมถึงประเทศไทยจะถือว่า Social Network ที่เราใช้งานเปรียบเสมือน Profile แนะนำตัวของเรา แล้วก็ถือกันว่าการแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวหรือไม่เหมาะสมต่อที่ทำงานก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีเช่นกัน สุดท้าย คิดจะโพสต์อะไรลงไปก็ไตร่ตรองให้ดีว่ามันจะส่งผลอะไรบ้างหรือเปล่า ถึงเราจะลบโพสต์ไปแล้วแต่ถ้ามีคนมาเห็นเค้าก็สามารถแคปหน้าจอได้เหมือนกัน เรื่องนี้เลยสอนให้รู้ว่า คิดจะโพสต์อะไรไม่ดีไม่งามก็ตั้ง Private ไว้บ้างก็ได้นะจ๊ะ (อ้าว )
ขอบคุณภาพจากเพจ อาร์เซน เวรเกอร์
สุดท้ายย้อนมาดูคุณตัน อิชิตันบ้าง งานนี้หนีเสือปะจระเข้สุดๆ ถ้าไม่ให้เงิน วงโยก็จะทำการกระหน่ำลง Social Network ว่าท่านใจดำแน่นอน แถมที่คุณตันให้นี่ไม่ใช่สปอนเซอร์แต่อย่างใดเพราะไม่มีการทำหนังสือหรือลงลายลักษณ์อักษรมา (ยังกับวงโยทำการบ้านตรงจุดนี้มาดีมากที่ใช้ Social Network บีบคุณตัน) ถึงคุณตันจะมีชื่อให้พูดในข่าวอยู่เนืองๆ แต่ก็ไม่ช่วยเรื่องการตลาดของอิชิตันมากเท่าไหร่นั่นเอง เพราะตอนนี้กระแสคุณตันก็เงียบลงไปบ้าง และอย่างที่บอกตอนต้นว่าสังคมกำลังสนใจไปที่ประเด็นการมากดดันยืมเงินของวงโยแล้วว่าทำไปเพราะอะไรและใครกันแน่นั่นเอง เอวังจบด้วยประการละฉะนี้
ขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก Drama-Addict, Pantip 1, Pantip 2, เพจเฮ้ย! นี่มันตัดต่อฯ