บอลโลกก็จบไปแล้ว Facebook ก็ทำ Infographic ออกมาสรุปสถิติฮับ มีเรื่องน่าสนใจหลายอย่างก็คือ
- ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. – 13 ก.ค. มีคนที่พูดคุย มีปฏิสัมพันธ์ใน Facebook กว่า 350 ล้านคน และสร้าง interactions (โพสต์, คอมเมนต์ และไลก์) เกี่ยวกับบอลโลกถึง 3 พันล้าน interactions
- มี 88 ล้านคน สร้าง 280 ล้าน interactions ในวันอาทิตย์ แมตช์ชิงแชมป์ระหว่างเยอรมันและอาร์เจนตินา
รับว่าเป็นกีฬาที่ทุบสถิติทุกอย่างที่ Facebook เคยมีมากันเลยทีเดียว
นอกจากนี้แมตช์ที่ได้รับการพูดถึงในโซเชียล (ณ ที่นี้คือ Facebook) 5 อันดับคือ
- เยอรมัน vs อาร์เจนตินา รอบชิงชนะเลิศ (88 ล้านคนกับ 280 ล้าน interactions)
- บราซิล vs เยอรมัน รอบ semifinal (66 ล้านคนกับ 200 ล้าน interactions)
- บราซิล vs โครเอเชีย รอบเปิดสนาม (58 ล้านคนกับ 140 ล้าน interactions)
- อาร์เจนตินา vs เนเธอร์แลนด์ รอบ semifinal (39 ล้านคนกับ 83 ล้าน interactions)
- บราซิล vs ชิลี รอบ 16 ทีม (31 ล้านคนกับ 75 ล้าน interactions)
โมเมนต์ที่ถูกโซเชียลมากที่สุด
- บราซิล vs เยอรมัน รอบ semifinal: Sami Khedira ทำประตูให้เยอรมันในนาทีที่ 29 ซึ่งทำให้บราซิลโดนถลุงยับเยินด้วยสกอร์ 5-0 ทั้งๆ ที่ยังเหลือเวลาอีกเป็นชั่วโมงก่อนจบการแข่งขัน
- เยอรมัน vs อาร์เจนตินา รอบชิงชนะเลิซ ลุ้นกันทั้งแมตช์ จนเยอรมันคว้าแชมป์เป็นครั้งที่สี่ได้ในที่สุด
- บราซิล vs เยอรมัน รบ semifinal นาทีที่ 26 ที่โทนี่ โครส ยิงประตููได้รอบที่ 2 ทำให้เยอรมันขึ้นนำเป็น 4-0 เล่นเอาเจ้าบ้านและผู้เชียร์ช็อกกันแบบไม่ไว้หน้า
- เยอรมัน vs อาร์เจนตินา นาทีที่ 113 อันเดร เชือร์เล่ เปิดช็อตสวยงามให้มาริโอ เกิทเซ่ ยิงประตูให้เยอรมันนำ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
- บราซิล vs โครเอเชีย นัดแรก นาทีที่ 29 ที่เนย์มาร์ทำประตูแรกของบอลโลก และประตูแรกของบราซิลเช่นกัน ทำให้เสมอกับโครเอเชีย 1-1
ผู้เล่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
- Neymar (Brazil)
- Lionel Messi (Argentina)
- Cristiano Ronaldo (Portugal)
- Luis Suárez (Uruguay)
- David Luiz (Brazil)
- Júlio César (Brazil)
- Thomas Müller (Germany)
- Mesut Özil (Germany)
- Hulk (Brazil)
- Arjen Robben (Netherlands)
ผู้ที่ถูกยกย่องชาบูที่สุด Mario Götze (Germany)
คนที่พูดถึงบอลโลกมากที่สุด
- ผู้ชาย 18-24 (22% ของบอลโลก)
- ผู้ชาย 25-34
- ผู้หญิง 18-24
- ผู้หญิง 25-34
- ผู้ชาย 35-44
นอกจากนี้ยังมีสถิติอื่นๆ ดูได้จาก Infographic ฮับ
ที่มา – Facebook Newsroom