กลับมาพบกันอีกไตรมาสสำหรับรายงานผลประกอบการ Facebook ของไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ปี 2013 โดยไตรมาสนี้ Facebook ยังคงรายงานตัวเลขการเติบโตแข็งแกร่งเช่นเคย ด้วยรายได้รวม 2,016 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับรายได้ 1,262 ล้านดอลลาร์ จากไตรมาสที่ 3 ของปี 2012 และเป็นกำไรสุทธิถึง 425 ล้านดอลลาร์
- รายได้ในไตรมาสนี้ 1,800 ล้านดอลลาร์ มาจากค่าโฆษณา ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 66%
- รายได้จากโฆษณานี้ 49% มาจากโฆษณาที่อยู่บนมือถือ
- รายได้จากค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 218 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขผู้ใช้งาน Facebook ก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีรายละเอียดตามนี้
- ผู้ใช้งานกลุ่มเป็นประจำทุกวัน (DAUs – Daily active users) อยู่ที่ 728 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25%
- ผู้ใช้งานกลุ่มเป็นประจำทุกเดือน (MAUs – Monthly active users) อยู่ที่ 1,189 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18%
- ผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนผ่านมือถือ อยู่ที่ 874 ล้านคน เพิ่มขึ้น 45%
- ผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวันผ่านมือถือ อยู่ที่ 507 ล้านคน
- ผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนผ่านมือถือเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 254 ล้านคน
รายได้จากค่าโฆษณายังคงเติบโตในทุกภูมิภาค
ข้อมูลที่น่าสนใจจากช่วงแถลงผลประกอบการกับนักวิเคราะห์
- ซีอีโอ Mark Zuckerberg บอกว่าด้วยตัวเลขบนมือถือที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทเป็น Mobile Company มากขึ้น ดังเห็นได้จากผู้ใช้กว่า 200 ล้านคนที่ใช้ Facebook จากมือถือเพียงอย่างเดียว
- โครงการ Internet.org จะทำให้คนอีก 5 พันล้านคนทั่วโลกเข้าถึงโลกออนไลน์และเศรษฐกิจแห่งความรู้
- ซีโอโอ Sheryl Sanberg ข่มว่าระยะเวลาที่คนใช้งานบน Facebook กับ Instagram นั้นมากกว่าที่คนใช้บน YouTube, Pandora, Yahoo, Twitter, Pinterest, Tumblr, AOL และ LinkedIn ที่ว่ามาทั้งหมดรวมกัน!
- ซีเอฟโอ David Ebersman พูดถึงเรื่องวัยรุ่นใช้ Facebook น้อยลงว่าการวัดเรื่องนี้นั้นทำได้ยาก แต่ตัวเลขที่ Facebook มีจำนวนผู้ใช้งานที่จัดเป็นวัยรุ่นในอเมริกาค่อนข้างคงที่ ตัวเลขที่เห็นการถดถอยคือผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวันในกลุ่มนี้
- Facebook จะไม่เพิ่มบริมาณโฆษณาที่ปรากฏบน News Feed ไปมากกว่านี้ในตอนนี้ เนื่องจากมองว่าเหมาะสมแล้ว (แต่ทั้งนี้โฆษณาบน News Feed คือตัวเร่งรายได้ Facebook ให้เติบโตอย่างมากช่วงที่ผ่านมา)
- Zuckerberg พูดถึงการเพิ่ม Hashtag ว่าเป็นการทำในสิ่งที่คนนิยมทำกันเท่านั้นเอง ไม่มีนัยยะต่อ Graph Search (อ้าว)
- Zuckerberg พูดถึงวิดีโอบน Instagram ว่าเสียงตอบรับดี คนที่ไม่ชอบก็สามารถเลื่อนผ่านลงไปได้ ไม่รบกวนนัก
สำหรับเนื้อหาของไตรมาสนี้ก็มีเพียงเท่านี้ พบกันในไตรมาสที่ 4 ซึ่งช่วงเวลานั้น Twitter น่าจะเข้าตลาดหุ้นแล้ว และเราคงได้เห็นการเปรียบเทียบกันที่น่าสนุกขึ้นครับ