ที่ผ่านมาการสร้างแบรนด์เคยเป็นเรื่องของธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งมีงบประมาณจำนวนมากสำหรับกิจกรรมการตลาด และวิธีการสร้างแบรนด์ที่นิยมใช้กันก็คือการออกโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะโฆษณาโทรทัศน์ที่มีความสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นกัน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มากเกินกำลังสำหรับธุรกิจ SMEs ที่มีขีดจำกัดด้านงบประมาณ ด้วยเหตุนี้การทำแบรนด์ของธุรกิจ SMEs จึงกลายเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อมมาโดยตลอด
แต่ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไป จากที่เคยรับข้อมูลข่าวสารจากโทรทัศน์เป็นหลักก็กลับย้ายความสนใจไปสู่พื้นที่เพียงไม่กี่ตารางนิ้วบนหน้าจอ Smartphone และ Tablet ที่ตอบสนองความต้องการได้มากกว่าตรงที่สามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยตนเองแทนที่จะรอให้สื่อป้อนข้อมูลให้ รวมไปถึงการเลือกรับข้อมูลเฉพาะอย่างเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ผู้บริโภคจะใช้เวลากับ Smartphoneและ Internet มากกว่าโทรทัศน์เพราะความเปลี่ยนแปลงนี้เองที่ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต้องพยายามให้มากกว่าการยัดเยียดตัวเองให้ผู้บริโภคเห็นด้วยวิธีการแบบเดิมๆ ไปสู่การหลอมรวมตัวเองไปกับสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจ โดยเฉพาะบนสมาร์ทโฟนที่ติดตัวผู้บริโภคไปทุกที่ทุกเวลา หน้าจอกระทัดรัดจึงกลายเป็นสมรภูมิเดือดที่บรรดาแบรนด์ต่างเปิดศึกแย่งชิงความสนใจจากผู้บริโภค และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้ผลก็คือการผนึกกำลังร่วมกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยเฉพาะแมสเซนเจอร์ยอดฮิตอย่าง Line ที่สามารถแสดงแบรนด์คาแรกเตอร์ออกมาอย่างชัดเจนผ่านตัว Stickerอีกทั้งยังสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างใกล้ชิดชนิดที่ไม่มีเครื่องมือสื่อสารใดเคยทำได้มาก่อน เพราะสามารถสร้างโอกาสให้แบรนด์คาแรกเตอร์ได้มีส่วนร่วมลงลึกถึงระดับบทสนทนาของผู้บริโภคในทุกครั้งที่มีการกดส่ง Line Stickerที่สำคัญคือต้นทุนที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับการใช้สื่อประเภทอื่นLine Stickerจึงเป็นทางเลือกที่ทำให้การสร้างแบรนด์คาแรกเตอร์ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินคว้าสำหรับ SMEs อีกต่อไป จึงพบว่ามีสินค้าและบริการหลายอย่างเลือกทำ Line Stickerออกมาแจกให้ใช้กัน
แม้กระทั่งธุรกิจธนาคารอย่างธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็จัดทำ Line Stickerน้องหมีซามูไร ชื่อน้องกินจุงกับน้อง ช็อปจุงออกมาให้ดาวน์โหลดไปใช้กันในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสติกเกอร์ที่ออกแบบเป็นรูปน้องหมีสีน้ำตาลหน้าตาน่ารักที่ใครๆ ได้เห็นแล้วก็อยากโหลดใช้ มาในชุดเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่นพร้อมแถบคาดหัวสีเหลืองที่มีข้อความKrungsriที่เปลี่ยนลุคน้องหมีธรรมดาๆ แสนซื่อให้กลายเป็นหมีซามูไร ภายใต้คาแรกเตอร์ซนๆ สนุกสนานและปราดเปรียวสมกับภาพลักษณ์ทันสมัยของธนาคารกรุงศรี จึงไม่แปลกใจที่สติกเกอร์ชุดนี้จะได้รับความนิยมอย่างมาก
ความน่าประทับใจของสติกเกอร์ชุดนี้ก็คือความสามารถแทรกตัวเข้าไปอยู่ในการสนทนาของผู้บริโภคได้บ่อยจนน่าประหลาดใจ และที่เป็นเช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด เพราะเบื้องหลังของความสำเร็จคือกลยุทธ์การออกแบบสติกเกอร์ที่ถูกวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้สติกเกอร์ได้อย่างยืดหยุ่นในสถานการณ์ที่หลากหลาย เมื่อวิเคราะห์ลงไปก็จะพบว่าสติกเกอร์แต่ละตัวนั้นเมื่อนำมาจัดกลุ่มตามจุดประสงค์และความถี่ในการใช้สติกเกอร์จะแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มย่อยๆ
กลุ่มแรกคือSticker ที่จะถูกเลือกใช้อยู่ตลอดๆ เพราะออกแบบมาภายใต้บริบทของชีวิตประจำวัน โดยจะเน้นไปที่การแสดงอารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะดีใจ เศร้าเสียใจ ตลกขบขัน ตกใจ แม้แต่การแสดงการกระทำ ได้แก่ การบอกรัก ขอบคุณ ตอบตกลง รวมไปถึงการแสดงออกบางอย่าง เช่น มีเงิน ร่ำรวย หรือสตางค์หมด เป็นต้น โดยสติกเกอร์ในกลุ่มนี้มีอยู่มากที่สุดถึง 9 ตัวจากทั้งหมด 16ตัว จึงเพิ่มโอกาสให้ถูกเลือกใช้ได้หลายๆ ครั้งในแต่ละวัน
กลุ่มถัดมาคือStickerที่ได้รับการวางแผนมาให้ถูกใช้บ่อยที่สุดเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น สติกเกอร์จำพวกนี้ได้แก่สติกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลต่างๆ ซึ่งสติกเกอร์ที่ออกแบบมาอย่างเจาะจงสำหรับแต่ละเทศกาลโดยเฉพาะจะถูกเลือกใช้เป็นสื่อแทนข้อความในช่วงเวลาดังกล่าวได้ดีที่สุด สำหรับสติกเกอร์ของธนาคารกรุงศรีนั้นครอบคลุมเทศกาลความสุขถึง 4 เทศกาลด้วยกัน ได้แก่ คริสต์มาส ปีใหม่ วาเลนไทน์และตรุษจีน
สำหรับ Stickerกลุ่มสุดท้ายนั้นถูกออกแบบมาสำหรับสถานการณ์ที่เฉพาะตัวอย่างยิ่ง เพราะสติกเกอร์กลุ่มนี้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่บอกเล่าเหตุการณ์เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่กำลังเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม การแจ้งโอนเงิน ซึ่งสติกเกอร์จะดึงผู้บริโภคกลับเข้าสู่บริการธุรกรรมการเงินต่างๆ ที่ใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน พร้อมสื่อสารกับผู้บริโภคว่าเรื่องเงินนั้นเป็นเรื่องง่าย อันเป็นการเน้นย้ำสโลแกนของธนาคารกรุงศรีแก่ผู้บริโภคอีกครั้งอย่างแนบเนียน
แอพพลิเคชั่นไลน์เป็นช่องทางการสื่อสารที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน และเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างแบรนด์สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ไปจนถึงธุรกิจ SMEs ผ่านการสร้างสรรค์ไลน์สติกเกอร์ที่สะท้อนแบรนด์คาแรกเตอร์ ซึ่งมีผลอย่างมาต่อการจดจำและรับรู้แบรนด์ของผู้บริโภค ที่สำคัญคือการสร้างความชื่นชอบต่อแบรนด์ให้เกิดขึ้น แต่การทำไลน์สติกเกอร์ให้ประสบผลสำเร็จนั้นจะต้องมีการออกแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี เพื่อให้สติกเกอร์สามารถเข้าถึงชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้ภายใต้สถานการณ์ที่หลากหลายซึ่งมีผลต่อโอกาสที่สติกเกอร์จะถูกเลือกใช้ที่เพิ่มขึ้น และยิ่งความถี่ที่ลูกค้าติดสติกเกอร์ลงบนไลน์บ่อยมากแค่ไหนก็ย่อมหมายถึงโอกาสที่ลูกค้าจะรู้สึกติดตา เกิดความคุ้นเคยและนำไปสู่ความผูกพันกับแบรนด์ก็มีสูงมากขึ้นไปด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือลูกค้าได้เลือกประทับแบรนด์ลงในใจของตนเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ SMEs ที่อยากอ่านกรณีศึกษาหรือแนวทางการทำธุรกิจ สามารถติดตามข้อมูลดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://www.krungsri.com/ ครับ