ถึงแม้ว่า ข้อมูลจาก Hitwise ที่บอกว่า Facebook มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับหนึ่งแซง Google จะน่าเชื่อถือได้บางส่วนก็ตาม แต่ก็อย่างที่บอกไปในบล็อกตอนที่แล้วว่าเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Facebook ก็รุกคืบ Google มาได้ใกล้มากๆ แล้วและต่อให้ตอนนี้ไม่ชนะก็จะอาจจะเอาชนะ Google ได้สักวันก็ได้นะ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ค่ะ ^^
สงครามความมีตัวตน (Wars Identity)
สิ่งแรกที่ Facebook ช่วงชิงจาก Google มาได้คือเรื่องของ “บัตรประชาชนออนไลน์ (Online Identity)” ที่รวบรวมข้อมูล “จริง” ของ user ทั่วทุกมุมโลกมาเก็บเอาไว้เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่มากๆ (ถ้านับว่าตอนนี้ Facebook มี 500 ล้าน account แล้วเราสมมติว่า 500 ล้าน account นี้ ใช้ข้อมูลจริงในการสมัครหมด* เท่ากับว่าตอนนี้ Facebook มีฐานข้อมูลผู้ใช้ 500 ล้านคน ก็เยอะอยู่นะ) และเมื่อ Facebook เอาฐานข้อมูลตรงนี้มาทำเป็นบริการ Single Sign-On (หรือที่เรียกว่า Facebook Login) โดยจากเดิมที่ user จะต้องกรอกชื่อ username password ในการสมัครสมาชิก แต่ถ้าเว็บไซต์เหล่านั้นติด Facebook Login ด้วย เราก็จะสามารถสมัครสมาชิกเว็บไซต์เหล่านั้นได้ง่ายขึ้นแค่ไม่กี่คลิก แถมยังไม่ต้องมาลำบากจำ password ด้วย
แนวคิด “บัตรประชาชนออนไลน์” ของ Facebook นี่พบว่าได้ผลดีทีเดียวเพราะว่าถ้านับรวมแล้ว มีเว็บไซต์ที่ใช้ Facebook Login มากถึง 46% (ข้อมูลจาก Gigya) ถ้าเทียบกับ Google ที่มีคนใช้อยู่ 17% นี่ก็มากกว่าเกือบ 3 เท่าเลยนะเนี่ย :D
*จริงๆ จำนวน Account ทั้งหมดของ Facebook ที่มีประมาณ 500 ล้าน ID ก็ประมาณเป็นจำนวนคนไม่ได้อยู่แล้วอ่ะเนอะ แต่เอาจริงๆ ตอนนี้ Facebook ก็ทำระบบสมัครสมาชิก รวมไปถึงการยืนยันตัวตนที่ค่อนข้างเฮี้ยบกว่าเดิมแล้วนะคะ (ต้องใช้ชื่อจริง, ต้องยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถือและอีเมล) ถ้าให้เทียบก็อารมณ์ประมาณเว็บ Pantip บ้านเราแหละ ที่สมาชิกต้องยืนยันตัวตนก่อนผ่านระบบบัตรประจำตัวประชาชนไรงี้ เอาเข้าจริงระบบมันก็ทำมาป้องกันเกรียนได้แค่บางส่วน ก็ต้องเข้าใจอ่ะนะคะ ^^’
Google Buzz กับ Facebook
ถ้าจะพูดถึง Social Network ของ Google ปีนี้ก็จะเจอ Google Buzz หรือ Google Wave ที่เอาจริงๆ ก็สอบตกทั้งสองตัว
ในขณะที่ Facebook อยู่ๆ ก็มาบูมด้วยเกมเอย ควิซเอย ที่ดึงคนเข้ามาเล่น ดึงคนเข้ามาใช้ Facebook แล้วในขณะเดียวกัน Facebook เองก็พัฒนาพวก Social Plugin เชื่อมฐานข้อมูลผู้ใช้เข้ากับเว็บไซต์ ทำตัวเองให้เป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้จำนวนมากกับ “อะไรก็ได้” ที่อยากเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ (จะเป็นแบรนด์หรือ Celeb ที่มาทำ Facebook Pages หรือเป็นเกมอย่าง FarmVille ที่มาเปิดฟาร์มกันใน Facebook) ทำให้จำนวนผู้ใช้ Facebook โตขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ (เอาแค่ในไทยเองตอนนี้ใครไม่มี Facebook นี่ก็แทบจะถูกตัดขาดการสื่อสารกับเพื่อนเลยจริงมั้ย)
เอาเข้าจริงเวลาเราพูดถึง Social Network ตัวที่จะถูกเทียบกับ Facebook กลับเป็น Social Messaging Service อย่าง twitter มากกว่า Google Buzz ซะอีกนี่นะ :P
Google ยังเป็นแชมป์ในเรื่องตัวค้นหา (Search Engine)
จริงๆ ถ้าพูดถึง Google สิ่งแรกที่เรานึกถึงก็คือตัวค้นหาของ Google ซึ่ง Google เองก็ยังครองแชมป์ด้านนี้เสมอมา แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นแชมป์ได้ตลอดไป เพราะอย่างที่เรารู้ๆ อยู่ว่าปัจจุบันนี้ สแปมเอย เว็บ SEO เอย เว็บที่ดักแต่คีย์เวิร์ดก็มีเยอะ ทำให้เดี๋ยวนี้เวลาเราจะค้นหาอะไรใน Google ก็ใช่ว่าจะเจอสิ่งที่ต้องการเสมอไป :P
ส่วนตัวมองว่าถ้า Facebook สามารถทำตัวช่วยค้นหาข้อมููลด้วยการอ้างอิงกับจำนวน “Like” โดยข้อมูลที่เราค้นหาได้จะเรียงตามจำนวนที่เพื่อนเรากด Like ก็จะเป็นการคัดกรองเนื้อหาเว็บได้ในระดับนึง (แต่แน่นอนว่าก็เป็นการตีกรอบการค้นหาเข้ามา ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้) และการทำ SEO ใส่แท็ก ดักคีย์เวิร์ด ก็จะไม่ได้ผลละ คือถ้าสามารถทำระบบมันออกมาได้ดีๆ Google ก็มีสิทธิ์โดนล้มนะ :D
Note: เคยมีข่าว Facebook แสดงผลการค้นหาเรียงตามจำนวน like ได้แล้ว แต่ยังทำระบบออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ (เข้าขั้นแย่เลยแหละค่ะ ฮ่าๆ)
เป้าหมายใหญ่ของ Google: Mobile และ video
ถ้ามองในแง่ของเว็บไซต์ Facebook อาจจะได้เปรียบ Google อยู่มาก แต่ถ้าเป็นธุรกิจ Mobile อันนี้ก็ต้องยกชัยชนะให้ฝั่ง Google ที่มี OS อย่าง Android เป็นของตนเองและยิ่งใหญ่ถึงขนาดเอามาสู้กับ iOS ของ Apple ได้
อีกจุดที่ตอนนี้ Facebook ยังสู้ Google ไม่ก็ก็คือเรื่องของ video (และกว่า video ของ Facebook จะสู้ YouTube ได้ก็คงจะอีกนาน -_-‘)
และเอาจริงๆ อีกเรื่องที่ Google ก็ยังชนะ Facebook ก็คือเรื่องของอีเมล, การส่งอีเมลในกลุ่มองค์กร นี่ล่ะค่ะ (ว่ากันว่า Facebook จะใช้ Facebook Group แบบใหม่ และ Facebook New Messages มาสู้ แต่ป่านนี้ก็ยังไม่ได้เล่นตัว Message แบบใหม่เลย ฮ่าๆ T.T)
เอาเข้าจริงศึกสงครามระหว่าง Facebook และ Google (ในแง่ที่ Facebook นำ Google ด้าน Social Web และ Online Identity ไปมาก แต่ Google ก็ยังได้เปรียบด้าน Mobile, video และ email อยู่) ถ้าเทียบความสูสีแล้วก็บอกไม่ได้ว่าใครจะชนะในท้ายที่สุด แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ Google มีรายได้เยอะกว่า Facebook มากค่ะ (ฮ่าาา)
