ในขณะที่บางกลุ่มกำลังมีเรื่องเด่นประเด็นถกว่าด้วยเรื่องของการหาเสียงของนักการเมืองไทยกับ Social Network และบทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อการใช้เครื่องมือดังกล่าว ที่มีแนวคิดแบบไม่ทันโลก Realtime เอาซะเลย (ฮา)
พร้อมกันนี้ก็บังเอิญว่ามีข่าวเรื่องการหาเสียงของนักการเมืองในอเมริกา (ที่มีกรณีศึกษาในตำนานจากการใช้ Social Media ในการหาเสียงของ Barack Obama จนได้รับชัยชนะเป็นประธานาธิบดีคนปัจจุบัน) แต่เนื่องจากใกล้จะหมดวาระในการรับตำแหน่งของโอบามาแล้ว ในตอนนี้หลายๆ พรรคก็เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า และแน่นอนว่าการเริ่มหาเสียงของแต่ละพรรคก็จะใช้ทั้งการหาเสียงแบบปกติและเริ่มมีความเคลื่อนไหวผ่าน Social Media ต่างๆ มากขึ้น
สำหรับกระบวนศึกการใช้ Social Media ในการหาเสียงครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจาก “Tim Pawlenty” อดีตผู้ว่าการรัฐมินเนโซตา โดยหวังจะเป็นตัวแทนรีพับลิกันชิงชัยกับประธานาธิบดีคนปัจจุบัน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากที่นี่)
วิธีการหาเสียงของ Tim Pawlenty ใน Social Network ก็มีทั้งเว็บไซต์, UStream Live, Flickr, Twitter (Verified Account ด้วยนะ แต่ไม่รู้ว่าใช้ทีมงานโพสต์ด้วยหรือเปล่า :P) และ Facebook Page ความพิเศษอยู่ที่ คุณ Tim คนนี้ (จริงๆ ก็คงเป็นเอเจนซี่ที่ดูแลเรื่อง Social Media ให้) ใช้วิธีโปรโมต Facebook Page ด้วยการลง Facebook Ads แบบ Sponsored Stories (SS) (อ่านเรื่องของ Facebook SS ได้จากที่นี่)
Facebook Sponsored Stories ที่ Tim Pawlenty ใช้ เป็นโฆษณาแบบ “Page Like Story” ดูได้ตามภาพเลยฮะ
ถ้ามีเพื่อนเรากด Like Page นี้ จะขึ้นในหน้า Feed ของเราแบบนี้ และมีปุ่มชวนให้เรากด Like อยู่ข้างใต้ด้วย
สังเกตว่าถ้าเป็นการกด Like Page ปกติ จะไม่มีปุ่มให้เรากด Like Page นั้นๆ
ความน่ากลัวของการโฆษณาแบบนี้คือ “ไม่ยอมบอกว่าตัวเองคือโฆษณา” (จะน่ากลัวมากถ้าพวกที่มาใช้ระบบ SS นี่เป็นพวกขายตรงแบบเนียนๆ) แต่ในกรณี Tim Pawlenty นี่ ส่วนตัวมองว่าเป็นการปรับกลยุทธ์ที่เจ๋งนะ เพราะ Sponsored Stories ของ Facebook ยังเป็นรูปแบบการโฆษณาที่ยังไม่มีใครใช้เท่าไหร่ (ถือว่าเป็นการใช้ Facebook SS ครั้งแรกในวงการการเมืองก็เป็นได้) และเตรียมตัวไว้ได้เลยว่าอีกหน่อยเราจะเจอโฆษณาแบบนี้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เพราะว่าโฆษณาแบบแบนเนอร์หรืออะไรที่ว่ากันตรงๆ ว่ามันคือการโฆษณา มักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้บริโภคแล้ว :P (อนาคตของการโฆษณาออนไลน์ = integrated ad?)เพราะฉะนั้นผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็ต้องรู้เท่าทันสื่อ ว่านี่คือรูปแบบการโฆษณานะ จะได้ไม่หลงลมคำโฆษณาชวนเชื่อที่จะเนียนขึ้นๆ ทุกวันๆ ฮับ
