เมื่อคืนช่วงประมาณเกือบๆ เที่ยงคืนที่บ้านเรา (ช่วงเช้าของฝั่งสหรัฐฯ) ก็มีการจัดงานที่มีชื่อว่า A Morning with Google+ ซึ่งเป็นงานที่แถลงถึงความก้าวหน้าของ Google+ ในรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงปล่อยของให้ผู้ใช้ได้เล่นกันอย่างเพลิดเพลิน ถ้ายังจำกันได้ตอนงาน Google I/O 2013 ตอนนั้นทีมงานก็แผงฤทธิ์กันสุดยิกด้วยการปล่อยของเล่นชวนว้าวไปแล้วถึง 38 อย่างด้วยกัน (ไม่รู้ว่าใช้กันครบหรือยัง) มาถึงรอบนี้ก็จัดหนักอย่างต่อเนื่องอีก 18 ฟีเจอร์ด้วยกันทีเดียว เดี๋ยวมาดูกันว่าของเล่นใหม่ๆ รอบนี้รวมถึงในงานนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
สถิติน่าสนใจในรอบปี
- 4 เดือนที่ผ่านมา มีอัพเดทเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงฟีเจอร์ที่ไม่ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการถึง 20 ตัว เช่น แชร์ location, อัพ raw file ได้ และ embed post เป็นต้น
- สองปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้ 540 ล้านคนทั่วโลกและมี 300 ล้านคนที่ยังใช้งานอย่างต่อเนื่อง
- มีภาพถูกอัพขึ้นมากถึง 1.5 พันล้านรูปต่อสัปดาห์
Google+ Hangouts
- แชร์ location ของผู้ใช้ผ่านหน้าแอพด้วยการแตะที่เครื่องหมายหมุดหนึ่งครั้ง
- แสดงภาพเคลื่อนไหวประเภท GIF ในแอพ
- รวม SMS เข้ากับตัวแอพ (ไม่ชัวร์ว่าจะรวมใน iOS หรือไม่)
- Hangouts OnAir สามารถวางแผนการถ่ายทอดสดรวมถึง Promote การ OnAir ที่จะมีหน้า Event มาให้และระหว่างถ่ายทอดสดก็สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้ เช่น ลดเสียงอีกคนหรือจะปิดกล้องอีกคน เป็นต้น
- Hangouts Video Call สามารถขยายให้เต็มหน้าจอระหว่างอุปกรณ์ทุกตัวรวมถึงระบบเพิ่ม Effect ของภาพได้เช่น ปรับแสงหรือโฟกัสภาพ
Photos
เรื่องของ Photo ถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจของ Google+ อย่างมาก Speaker ของงานนี้ (คุณ Vic Gundotra) ก็ได้พูดถึง 4 อย่างที่นักถ่ายภาพต้องทำเวลาถ่ายภาพๆ หนึ่ง ได้แก่ ถ่ายภาพ จากนั้นก็บันทึกและจัดการภาพ ตัดต่อด้วยเครื่องมือต่างๆ สุดท้ายคือแชร์ภาพนั้นให้คนอื่นดู ซึ่งเหล่านี้ทาง Google มองว่าทำให้คนที่ชอบการถ่ายภาพดูยุ่งยาก ก็เลยเปิดฟีเจอร์เกี่ยวกับภาพถ่ายที่ทำให้สะดวกขึ้นเข้ามาด้วยกัน 5 ตัว คือ
- Backup : สามารถอัพโหลดภาพลง Google+ ด้วยความละเอียดแบบ Full Resolution ได้ ส่วนในอนาคตก็จะมีการพัฒนา Full Size Backup และ Background Sync ของ iOS
- Highlight : สมมติว่าอัพภาพเข้าเป็นตอนเที่ยววัดพระแก้วเป็นพันๆ ภาพ แล้วเราไม่รู้ว่าจะเลือกภาพไหนส่งให้เพื่อนดี ระบบนี้จะช่วยให้เลือกภาพที่ดีที่สุดออกมาแสดงให้นั่นเอง
- Search : สามารถค้นหาภาพด้วยคำ เช่น หาว่า หมา หรือ แมว ก็จะแสดงภาพที่มีหมาหรือแมวในอัลบั้มของเราขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ก็มีคำในระบบมากถึง 1000 คำที่สามารถค้นหาได้อย่างแม่นยำ
- Enhance : ภาพแต่ละภาพที่ถูกอัพโหลดขึ้นไป จะผ่านการปรับปรุงภาพให้ดีขึ้นด้วยระบบ Auto-Enhance อัตโนมัติ เช่น ภาพไหนมีตาแดงก็แก้ให้ได้หรือปรับภาพให้สว่างขึ้น ซึ่งสามารถปิดระบบนี้ได้หากไม่ต้องการ หรือสามารถปรับให้ Auto-Enhance มีคุณภาพสูงหรือต่ำได้ด้วยตัวเอง ส่วนแอพแต่งภาพบนมือถืออย่าง Snapseed ได้เพิ่ม Effect HDR Scape เข้ามา ซึ่งทำให้ภาพเป็นโหมด HDR (High Dynamic Range) ได้ในคลิ๊กเดียว (Gundotra บอกว่าบางภาพก็อาจจะได้ผลไม่ดีนัก) ตอนนี้ก็สามารถแวะไปอัพเดทแอพ Snapseed ได้แล้วใน iOS และ Android นะครับ สุดท้าย Nik Collection ชุดเอฟเฟกต์สำหรับแต่งภาพแบบมืออาชีพก็มีอัพเดทเช่นกัน ได้เพิ่ม Analog Effex Pro เป็นเอฟเฟกต์ที่ทำให้ภาพดูเหมือนถ่ายจากกล้องถ่ายภาพ
- Auto Awesome : สำหรับฟีเจอร์ในกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นของเล่นสุดว้าวตอนงาน Google I/O 2013 เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น Motion ที่ทำภาพ Animation GIF ให้เราอัตโนมัติจากภาพนิ่งที่ถ่ายเป็นช็อตๆ หรือ Mix ที่รวมภาพนิ่งเป็นช่องๆ ให้เราภายในภาพเดียว รอบนี้จัดหนักไปอีก 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่
- Action – เมื่อถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมเดียวกัน แต่ภาพมีการเคลื่อนไหวที่ดูต่อเนื่อง เช่น ชู๊ตบาสลงห่วง ระบบก็จะทำการเรียงภาพเหล่านั้นแล้วซ้อนกันเป็นหนึ่งเดียว (งงก็ดูภาพจากตัวอย่างนะ)
- Eraser – เมื่อเราถ่ายภาพนิ่งที่มีคนเดินกันให้ขวักไขว่ไว้ (แต่ตัวเราก็ต้องนิ่งๆ นะ) ระบบจะทำการลบภาพคนที่เดินมาบังเราบ้างหรือคนที่ทำให้องค์ประกอบของภาพเสียออกไป แล้วจะได้ภาพใหม่ที่มีแต่เรายืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางภาพ ซึ่งหากภาพนั้นเข้าข่ายการทำอัตโนมัติให้ทั้ง Motion, Action และ Eraser ระบบก็จะทำภาพให้ทั้ง 3 ภาพ 3 Effect เลย
Auto Awesome Movie
ในรอบปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้อัพวิดีโอเข้าสู่ Google+ (ไม่ใช่ Youtube นะ) เพิ่มขึ้นมากถึง 20 เท่า ซึ่งหากเราเข้าไปดูใน Auto Backup จะเห็นว่าทั้งภาพและวิดีโอมันถูกอัพเข้าไปมั่วๆ กันหมด ปัญหาอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้พบเจอคือ อยากจะเอาทั้งภาพและวิดีโอออกมาทำเป็นคลิปส่งให้คนอื่นดู ครั้นจะเอามาตัดต่อในโปรแกรมลากวางๆ ก็ขี้เกียจอีก ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อท่านพบกับ Auto Awesome Movie! (iMovie ฉบับออนไลน์นั่นเอง… )
เพียงเลือกภาพกับวิดีโอที่เราเลือกไว้ จากนั้นก็รอสักครู่ ระบบก็จะทำการตัดต่อ รวมภาพบลาๆๆ ก็จะได้วิดีโอที่มีภาพและคลิปที่เราถ่ายไว้รวมกัน รวมไปถึงมันจะใส่เพลงและใส่ Filter ให้เราอัีตโนมัติ ซึ่งสามารถมาปรับเปลี่ยน Filter เปลี่ยนเพลง รวมไปถึงตัดต่อสั้นๆ เช่นจะลบช่วงนี้ก็เข้าไปที่ Storyboard พอจะลบอันไหนทิ้งก็ปัดมันออกไปจาก Timeline และยังสามารถใส่คำในภายหลังได้ เสร็จก็กด Save แล้วก็รอให้อัพโหลดให้เสร็จ โดยจะทำการอัพโหลดให้บน Youtube เมื่อเสร็จก็จะได้แจ้งเตือนมาทางมือถือว่าเสร็จแล้ว ก็แชร์ได้ทันที เช่นตัวอย่างของคุณ Julio Lagara
http://www.youtube.com/watch?v=JmY-p-o0kmo
ทั้งหมดนี้คือฟีเจอร์ทั้งหมด 18 ตัวที่ออกมาให้ผู้ใช้ได้สนุกกับใช้งาน Google+ กัน ซึ่งหลังๆ Google จะเน้นการทำฟีเจอร์ออกมาให้เราได้สร้างสรรค์ผลงานผ่านทางภาพออกมาซะเยอะ ส่วนตัวมองว่าหลายๆ ฟีเจอร์จะช่วยให้สนุกกับการถ่ายภาพด้วยมือถือกันมากขึ้น อีกทั้งตัว Auto Awesome Movie เอง เหมาะมากกับเด็กที่ทำค่ายแลวต้องมีวิดีทัศน์สรุปจบงาน อาศัยว่าเน็ตแรงพอเป็นใช้ได้ก็จับใส่ๆ แล้วก็รออย่างเดียว แถมเสร็จงานก็ได้ลิ้งค์แจกได้ทันที ซึ่ง Google ก็หวังว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วงเล่าเรื่องของคุณในแต่ละวันและเก็บไว้เป็นความทรงจำต่อไป ใครสนใจอยากชม Keynote ก็สามารถชมย้อนหลังได้ที่คลิปตอนท้ายเลยจ้า
ที่มา : The Next Web, Google+ Channel