เรื่องของเรื่องก็คือว่าราวๆ สายของวันนี้ (28 ส.ค.) เกิดปัญหาสัญญาณเครือข่ายดีแทคเกิดอาการล่ม ไม่สามารถใช้ได้กันถ้วนหน้า (ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของปีก็ไม่รู้) และแน่นอนว่าผู้บริโภคก็บ่นกันขรมผ่านทั้งทางทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก
ทีนี้บุคคลที่ร่วมด้วยช่วยแซะ ดันเป็นบุคคลที่ถือแอคเคาต์ของแบรนด์คู่แข่งดีแทคอย่างทรู (@trueconvergence) ซึ่งได้ทำการแซะ ถึงจะไม่ได้บอกว่าพูดถึงดีแทค แต่ก็พูดถึงการ “ล่ม” และเชิญชวนให้ย้ายค่ายมาทางเราสิจ๊ะ สิจ๊ะ ในเวลานั้น
แต่บังเอิญว่าทรูได้ทำผิดจังหวะไปเต็มๆ เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ปัญหาสัญญาณของทรูเองก็ใช่ว่าจะดีกว่าดีแทคซักเท่าไหร่ ดังนั้นเสียงตอบรับส่วนใหญ่ของทวีตขายของของทรู จึงเป็นเสียงด่าซะเป็นส่วนมาก จนทรูต้องออกมาแก้ตัวพัลวันว่าแซวเล่นขำๆ เองอย่าคิดมากสิตัวเธอ รวมถึง Retweet ข้อความด่าตัวเองด้วยนะ…
อันที่จริงการที่แบรนด์ออกมาแซะแบรนด์ก็ไม่ได้มีทรูที่ทำเจ้าแรก ก่อนหน้านี้อาร์เอสก็เคยทวีตแซะแกรมมี่เรื่องห้าม cover เพลงมาแล้ว แต่ผลตอบรับที่ได้ต่างกันมาก เรื่องนี้ไม่มีสูตรสำเร็จว่าจะแซะหรือช่วงชิงพื้นที่สื่อยังไงให้ไม่น่าเกลียด มันต้องดูจังหวะและสถานการณ์ รวมถึงข้อความที่ใช้สื่อสารก็เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ดูแลโซเชียลเน็ตเวิร์กขององค์กรจะต้องตระหนักให้ดี แต่ที่แน่ๆ แค่คุณเริ่มแซะแบรนด์คู่แข่ง ก็ต้องเตรียมใจไว้ได้เลยว่าผลตอบรับที่ได้อาจรุนแรงและมีสิทธิ์เป็นดราม่าบานปลายระหว่างองค์กรได้ในภายหน้า แต่ถ้ารู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง…ก็ขอให้โชคดีมีชัยกันนะฮับ♥ สุดท้ายนี้ก็ขอไว้อาลัยให้กับทรูมา ณ ที่นี้ด้วยจ้ะ
ป.ล. แปะบทความที่เคยเรียบเรียงว่าด้วยดราม่าของแบรนด์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กเอาไว้ ใครสนใจก็จิ้มอ่านด้านล่างโลด
ในขณะที่มีดราม่า นี่คือ 5 ข้อที่คนดูแล Social Media ของแบรนด์ไม่ควรกระทำ
ศาสตร์แห่งการขอโทษขอขมา หากเกิดดราม่าบน Social Network