สัปดาห์ที่แล้วเราเขียนเรื่อง รวมคลิปไทยที่เจ๋งจนต้องบอกต่อในปี 2012 ไปแล้วนะฮับ คราวนี้มาลองดูกรณีดราม่าของ “แบรนด์” บน Social Network กันบ้างจ้ะ ก็บอกไว้ก่อนว่าอาจจะรวมเคสมาได้ไม่ครบถ้วนนะฮับ ใครมีอะไรก็มาเสริมได้ในคอมเมนต์เช่นเคย และก็อยากจะบอกเจตนาไว้ก่อนว่าที่รวมเคสพวกนี้มาให้ดูไม่ได้ต้องการจะประจานอะไร แต่อยากจะให้ดูเอาไว้ว่ามันเคยเกิดกรณีเหล่านี้ขึ้น เพื่อจะได้ดูไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจไม่ทำผิดซ้ำรอยจ้ะ
KFC กับการโพสต์ขายไก่ผิดสถานการณ์
วันที่ 12 เมษายน ได้เกิดเหตุเตือนกันว่าประเทศไทยอาจมีสิทธิ์เกิดภัยสึนามิได้ ท่ามกลางความโกลาหลอลหม่านทั้งใน Twitter และ Facebook แทบทุกเพจก็เกาะติดรายงานสถานการณ์ให้ลูกเพจอ่าน และแล้วก็มีสเตตัสนี้โผล่มาจาก KFC
เรื่องของเรื่องคือจะมองให้ขำก็ขำ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ขำด้วย คือกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน พี่จะมาฮาร์ดเซลล์ขายของผิดเวลาไปไหม เพจ KFC ก็เลยโดนรุมกระหน่ำด่าทั้งผ่านทางเพจและทางเว็บบอร์ดต่างๆ จนท้ายที่สุด KFC ก็ลบโพสต์นั้นทิ้งและออกมาขอโทษแต่โดยดี
แต่อย่างไรก็ดี เคสนี้ถูกนำไปพูดถึงในสื่อนอกอย่าง AP, The Republic และ The Next Web ด้วย
นิตยสาร Ray กับการหยิบ Feedback ของลูกค้ามาวิจารณ์เสียๆ หายๆ
เรื่องของเรื่องก็คือในพันทิปมีคนมาวิจารณ์นิตยสาร Ray ว่าเดี๋ยวนี้คุณภาพดีน้อยลงกว่าเดิม นู่นนี่นั่น ก็มีคนมาผสมโรงวิจารณ์ตามประสา เรื่องจะไม่ดราม่าเลยถ้าไม่มีพนักงานของ Ray แคปเจอร์กระทู้นี้ไปวิจารณ์ใน Instagram ทำนองว่า ให้มันมาทำเองมั้ย ที่มาเกรียนนี่อิจฉาที่ไม่ได้เป็นนางแบบอ๊ะป่าว (เหยดดดด) แล้วก็ดันมีคนที่ติดตามพนักงาน Ray เหล่านี้อยู่ เค้าก็แคปเจอร์มาแฉในพันทิปต่อสิครับ.. เรื่องเลยดราม่าจนมีคนเข้าไปด่าในเพจของ Ray จำนวนมาก ชนิดที่ไม่ว่า Ray จะโพสต์อะไร ก็จะมีคนวกเข้ามาประเด็นพันทิปจนได้ มีถึงกระทั่งคนที่แปลคำพูดของพนักงานส่งไปยังบริษัทแม่ที่เป็นของญี่ปุ่นด้วยซ้ำไป ท้ายที่สุด Ray ก็ต้องออกมาแถลงการณ์ขอโทษ ก็ไม่รู้นะว่าเรื่องนี้จบลงยังไง แต่สาวๆ หลายคนคงเลิกเป็นแฟนคลับหนังสือ Ray ด้วยประการฉะนี้
อ่านรายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ที่เว็บดราม่า ย่อยยับอัปรีย์ในพริบตา
Duckbar กับ MV BANKK CASH ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Woodkid?
Duckbar ได้ปล่อย MV ของ Bank (อดีตนักร้องนำวง Clash) เพลง Love me, Touch me, Kiss me ประเด็นก็คือว่าหลายๆ ฉากของเอ็มวีมันดันไปเหมือนกับเพลง Iron ของ Woodkid (ชนิดที่เจ้าตัวโพสต์เองทีเดียว เหยดดด)
ก็เป็นศึกรบราระหว่างคนรักแบงค์และคนรัก Woodkid รวมถึงคนที่คิดว่าเอ็มวีแบงค์ไปลอกเค้ามาจริงๆ แล้วช่วงนั้นเพจ Duckbar ที่เป็นค่ายของแบงค์ก็ทวีตและโพสต์ Facebook โปรโมตเอ็มวีของแบงค์ต่อไปแบบ เอ่อ แบบในภาพน่ะ
แต่ท้ายที่สุดก็มีการโพสต์ขอโทษขอโพยพร้อมบอกว่าจะนำคำติชมไปปรับปรุงการทำงานให้ดีที่สุด พร้อมกับลบเอ็มวีเวอร์ชั่นที่มีปัญหาทิ้งและทำใหม่ขึ้นมาแทน
ตัวนักร้องเองก็ออกมายอมรับเรื่องเอ็มวี ถึงแม้จะบอกว่าตัวเองมีส่วนร่วมเรื่องทำเพลงแค่นั้น แต่ก็ขอโทษแฟนๆ จากใจที่เอ็มวีมันออกมาเหมือนกัน
ใครอยากดูเอ็มวีเทียบกันก็ไปหาดูใน YouTube แล้วกันเด้อ
อ่านรายละเอียดดราม่านี้เพิ่ม: มติชน, ลอกเรียนแบบหรือแรงบันดาลใจ
ดราม่าแบรนด์เอาภาพไปโพสต์ ไม่ให้เครดิต, ตัดเครดิต และเจ้าตัวรู้ตัว
จริงๆ ดราม่านี้มีกันหมด ตั้งแต่เพจใหญ่ๆ ที่จะชอบเซฟรูปไปอัปเองแล้วให้เครดิตตามภาพ บางรายก็ตัดเครดิตออก และก็มีสารพัดเหตุผลที่ไม่ให้เครดิตเพราะ แชร์บน smartphone ไม่ได้, ไม่ได้เจอจากเพจตรงๆ แต่เจอจากเพื่อน ฯลฯ กรณีนี้เนื่องจากเราจะโฟกัสเรื่องของแบรนด์ ก็จะเอาจากเพจที่เคยเห็นผ่านหูผ่านตามาจ้ะ
กรณีโออิชิ vs รอบหน้าจริงกว่านี้อีก
เคสนี้มีการติดต่อหลังไมค์เพื่อจะส่งหนังสือขอโทษอย่างเป็นทางการด้วย
กรณีของ KTB
กรณีนี้เจ้าของภาพรู้ตัวและทำการบอกเพจตรงๆ แต่เพจแก้ไขสถานการณ์ด้วยการลบสเตตัสที่ไม่ให้เครดิตทิ้ง และมาขอโทษในทวิตเตอร์แทน (เอ่อ)
@tpagon ขอโทษนะครับ พอดีผมเจอตั้งแต่ช่วงเช้า และจำไม่ได้จริงๆ ว่าเป็นของใคร พอดีช่วงเช้าขึ้นอย่างอื่นไปแล้ว ก็เลยเก็บไว้ช่วงเย็น ขอโทษนะครับ
— KTB Care (@KTB_Care) April 24, 2012
@tpagon ปกติผมจะให้เครดิตตลอด เพราะเป็นคนนึงที่เล่น twitter และรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญมากๆ แน่นอน แต่ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของผมเองที่จำไม่ได้
— KTB Care (@KTB_Care) April 24, 2012
กรณีของ Bravo Japan (เครือโออิชิ) vs JapaiJapan, Marumura
เพจ “Bravo Japan” รายการของ Channel V Thailand ไม่ทราบใครดูแล แต่ทราบมาว่าเนื้อหา/รูปกว่า 20 โพสท์ คล้ายคลึงกับ “japaijapan” มาก
— vowpailin (@vow_vow) May 7, 2012
“Bravo Japan” (Channel V Thailand) กับ Japaijapan เหมือนกันมั้ย lockerz.com/s/207197757 lockerz.com/s/207197783
— vowpailin (@vow_vow) May 7, 2012
แล้วสองโพสท์นี้เหมือนไหม “Bravo Japan” (Channel V) กับ “Japaijapan” lockerz.com/s/207200415 lockerz.com/s/207200431
— vowpailin (@vow_vow) May 7, 2012
นี่คือคำตอบจาก Japan Bravo เมื่อถูกถามว่า “ไปก๊อปมากี่เว็บ”twitpic.com/9igv9x
— vowpailin (@vow_vow) May 7, 2012
ผมเสียเงินเป็นล้านเพื่อมาหาประสบการณ์ความรู้ในญี่ปุ่น แล้วร่วมตัวกับเพื่อนๆเพื่อทำjpjp เพื่อจะให้ข้อมูลกะคนที่อยากจะรับรู้เรื่องญี่ปุ่น
— ベスト∠(*`Д´) バンコク2福岡 (@besuto) May 7, 2012
แต่คุณมาเอาข้อมูลของเราไปง่ายๆโดยไม่ให้เครดิตเรา เท่ากะว่าคุณขโมยเงินผมไป บอกตามตรงผมยอมไม่ได้
— ベスト∠(*`Д´) バンコク2福岡 (@besuto) May 7, 2012
สุดท้ายเพจ Bravo Japan ก็มีออกมาขอโทษผ่านเพจ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้มีการเคลียร์กับคู่กรณีอย่างไรบ้าง
กรณีนี้อยากบอกว่า เข้าใจว่าเพจทุกเพจที่ทำขึ้นมาก็อยากได้ยอดไลค์ และยอดคนเข้ามาดูเพจตัวเองนะฮับ แต่ก็อยากให้เข้าใจว่าภาพทุกภาพที่คุณเอามา มันไม่ใช่ของฟรีทางอินเทอร์เน็ต มันมีต้นทุนของการทำ และเจ้าของภาพ เจ้าของคอนเทนต์ บางคนเค้าไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าขอให้แชร์จากต้นฉบับของเค้า อย่าเซฟไปอัปใหม่อะไรงี้ เราก็นึกถึงใจเขาใจเราบ้างเนอะ พวกเราชาวท่อง Facebook เวลาเห็นก็อย่าคิดง่ายๆ แค่ว่า กดไลค์เพจที่เค้าเอาคอนเทนต์มาปรนเปรอรสนิยมเราได้ก็พอใจแล้ว เวลาเห็นเพจไหนแชร์รูปแบบไม่ให้เครดิตหรือคุ้นๆ ว่ารูปนั้นเอามาจากเพจไหน ก็สะกิดบอกให้เพจเค้าให้ที่มากันบ้างอะไรงี้นะฮัฟ
แกรมมี่จะถอด MV จาก YouTube
มหากาพย์แกรมมี่กับ YouTube นะฮับ
GMM ถอด MV ออกจาก YouTube: กฎหมายไทยไม่เอื้อให้ YouTube ทำธุรกิจ
เว็บ Gmember ใหม่ใช้การดึงวีดีโอจาก YouTube, อาจขัดข้อตกลงการให้บริการ
GMM กำลังอยู่ในกระบวนการที่จะเจรจากับทาง YouTube
ปฏิกิริยาของค่ายเพลงในเครือแกรมมี่จากนโยบาย YouTube
เว็บ Gmember ไม่ได้ดึงวิดีโอจาก YouTube แล้ว
Gmember เพิ่มลายน้ำและลิงก์บน MV กลับไปยัง YouTube แล้ว
และท้ายที่สุด
มติอากู๋ จากนี้จะดู MV ค่ายแกรมมี่ใน YouTube ได้เหมือนเดิมแล้ว
อากู๋ ขอโทษแฟนเพลงเรื่อง กรณียูทูป ที่ผ่านมาเป็นการทดลอง พอทราบกระแสไม่ดีสั่งเปลี่ยนแผนด่วน ทุกเพลงกลับมาลงยูทูปปกติ twitter.com/NusmangoTV/sta…
— Nus Satakun (@NusmangoTV) August 29, 2012
(คือไม่ต้องเขียนอะไรเลย หัวข้อข่าวบรรยายเหตุการณ์ได้ครบ ฮ่าๆ)
ส่วนความเห็นของข่าวนี้ก็คือ เข้าใจในความเห็นของแกรมมี่ที่ว่ายอดวิวบน YouTube ไม่ได้ช่วยให้ศิลปินมีตังค์ขึ้นนะครัฟ แต่ว่าในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศไทยที่การปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญายังไม่มีผลจริงจังเนี่ย ต่อให้คุณไม่อัปเอ็มวีลง YouTube แต่คนอยากจะดู เค้าก็หาทางไปดูจากช่องทางอื่นได้จ้ะ และถ้าร้ายกว่านั้นคนก็อาจจะไม่ดูและไม่สนใจคลิปของแกรมมี่ด้วยซ้ำไป ซึ่งมันคงไม่มีผลกับศิลปินที่มีฐานแฟนคลับอยู่แล้วเท่าไหร่ แต่เพลงที่มีโอกาสเติบโตด้วยการบอกต่อแบบไวรัล หรือโอกาสในการเติบโตของศิลปินหน้าใหม่ผ่านสื่อที่เปิดให้ดูได้อย่าง YouTube ก็จะเสียไปจ้ะ
แล้วพอดี๊…พอดีกับการออกนโยบายของอากู๋ ที่คลิป Gangnam Style ของป๋า PSY ก็ออกมาแล้วดังเปรี้ยงไปทั่วโลกพอดี ถามว่าถ้าค่ายของป๋า PSY มีดำริแค่ว่าจะให้ดูเอ็มวี Gangnam Style ผ่านเว็บเกาหลีได้เท่านั้น กระแสกังนัมสไตล์จะเป็นแบบนี้ไหม ข้าพเจ้าคิดว่าไม่นะครัฟ แต่ก็ดีแล้วล่ะที่สุดท้ายแกรมมี่ก็กลับมาใช้นโยบายแบบเดิมได้
กรณีศึกษา: เมื่อทรูแซะดีแทค “ล่ม” ผ่านทวิตเตอร์ซึ่งหน้า แต่ชาวประชาไม่ฮา ดราม่าจึงบังเกิด
อันนี้ตอนดีแทคเครือข่ายล่ม แล้วทรูทวีตแซะจ้ะ คือกรณีแบรนด์บลัฟกันไปมานี่ก็มีให้เห็นบ่อย แต่บางสถานการณ์ที่ในขณะนั้นคนก็คงจะไม่ฮา เพราะดีแทคล่ม โทรติดต่อกันไม่ได้ ก็เลยอาจจะอารมณ์เสียง่าย ทรูเลยโดนไปตามระเบียบจ้ะ
ดราม่าแอร์ (อยาก) สาดกาแฟ
เรื่องของเรื่องก็คือมีแอร์สายการบิน Cathay Pacific ที่ได้เดินทางไฟลต์ที่มีแพทองธาร ชินวัตรบนเครื่องด้วย แล้วมาระบายบน Facebook ส่วนตัวว่าเกิดบันดาลโทสะ อยากสาดกาแฟใส่มาก (แต่ท้ายที่สุดเค้าก็ไม่ได้ทำอะไร คือพูดบน Facebook และโพสต์รูปที่มีชื่อผู้โดยสารชื่อแพทองธารด้วย) ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นเดือด มีคนเข้าไปรุมใน Facebook Page ของ Cathay Pacific (แต่แอดมินก็มีการตอบรับและชี้แจงที่ดี ถึงจะเป็นการก๊อปข้อความมาตอบซ้ำๆ ก็เถอะ) กรณีนี้น่าสนใจตรงที่ต่อจากนี้เราคงจะมีคำถามของขอบเขตในการแสดงออกของพนักงานที่แบกรับหน้าตาและชื่อเสียงของบริษัทเอาไว้อยู่ ถึงแม้คุณจะโพสต์ใน Facebook ส่วนตัว แต่ถ้ามีคนเอามาแฉ ทุกอย่างก็จะกระทบกันเป็นลูกโซ่ทั้งตัวคุณและองค์กรของคุณเอง!
Instagram ที่แพทองธารโพสต์ ใจความ “แค่เดินทางไปหาพ่อเพราะคิดถึง และเดินทางไปทำงานเพราะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าเคยทำอะไรให้โกรธก็ขอโทษด้วยละกันนะคะ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้้เพราะเดินทางบ่อยก็เจอแต่แอร์น่ารักๆทั้งนั้น now I feel uncomfortable that the person who was supposed to be a hostess actually wanted to pour coffee on my face….tea or coffee????”
ลิงก์ที่น่าสนใจ: นโยบาย Social Media ขององค์กร กับกรณีศึกษาแอร์ Cathay Pacific
Samsung กับดราม่าพนักงานเอามือถือลูกค้าไปใช้
เรื่องของเรื่องก็คือ มีลูกค้าซัมซุงออกมาตั้งกระทู้พันทิป บอกว่าเอาแฟนมือถือไปซ่อม 11 วัน ทำไมได้มือถือกลับมา มีรูปชายปริศนาอยู่ในเครื่อง? และด้วยกลไกหลักฐานต่างๆ มันสื่อให้เห็นว่าพนักงานมีการเอาเครื่องของลูกค้าไปใช้ส่วนตัวชัวร์ๆ และที่แน่ๆ ไม่ได้มีแค่ลูกค้ารายเดียวที่เจอปัญหานี้!? ประเด็นก็ลุกลามไปใหญ่โต มีคนเข้ามาแสดงความเห็นทั้งว่าเจ้าของกระทู้ว่าทำตัวเยอะ (จริงๆ เป็นเราถ้าเจอแบบนี้เราก็มีน้ำโห) และคอมเมนต์เห็นใจเจ้าของกระทู้ รวมทั้งด่าซัมซุงไปด้วย เพราะเจ้าของกระทู้ก็เล่าตลอดว่าได้มีการไปติดต่อเรื่องที่ศูนย์เพื่อตามเรื่องว่าทำไมต้องเอาเครื่องแฟนเค้าไปใช้ แล้วจะมีมาตรการจัดการยังไงกับพนักงานคนนี้บ้าง นอกจากจะมีคอมเมนต์ในกระทู้ยาวเหยียดแล้ว ก็ยังมีการแชร์และวิจารณ์เรื่องนี้กันผ่าน Social Network อย่างแพร่หลาย บางคนถึงกับบอกว่าจะไม่ซื้อมือถือของซัมซุงเพราะกลัวเจอแบบเจ้าของกระทู้
ทั้งนี้ซัมซุงมีเดินเกมพลาดในตานึงก็คือการพยายามรักษาภาพลักษณ์ด้วยการเสนอมือถือเครื่องใหม่ให้แฟนเจ้าของกระทู้ แลกกับการลบกระทู้ที่ไปโพสต์ตามเว็บบอร์ดทั้งหมด เมื่อเจ้าตัวไม่รับข้อเสนอและนำเรื่องนี้มาโพสต์เล่าให้ขามุงฟัง ทำให้เกิดกระแสตีกลับไปยังซัมซุงอีกว่าทำไมถึงใช้ลูกไม้นี้ แต่ท้ายที่สุดกรณีนี้ก็จบลงด้วยดีเนื่องจากมีผู้บริหารเข้าไปติดต่อพูดคุยกับคู่กรณีโดยตรงพร้อมกับรับฟังปัญหา และมอบมือถือเครื่องใหม่ให้แสดงความชดเชยโดยไม่ขอแลกให้ลบกระทู้ใดๆ ทั้งสิ้น
รายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บดราม่า: ซัมซวยวงแตก
ทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็เป็นดราม่าที่คิดว่าน่าจะบันทึกไว้เป็นกรณีศึกษากันหน่อยนะฮับ ใครมีอะไรอยากเพิ่มเติมก็คอมเมนต์ให้อ่านกันได้จ้ะ